ปลดล็อคเสน่ห์! เผยเคล็ดลับทำปากกระจับที่ใช่ในสไตล์ที่คุณเลือก

ในยุคที่ความสวยและความมั่นใจเป็นสิ่งสำคัญ ปากกระจับ กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับการเสริมเสน่ห์ให้กับใบหน้า โดยคำว่า ปากกระจับ หลายคนก็มักจะนึกถึง ปากมาสด้า คำเรียกยอดฮิตที่พอพูดเมื่อไหร่ก็เห็นภาพทันที โดยการทำศัลยกรรมปากกระจับไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจ แต่ยังสามารถช่วยปรับรูปลักษณ์ริมฝีปากให้สมดุล ดูมีมิติ น่าดึงดูดและยังเสริมโหงวเฮ้งได้อีกด้วย

ปัจจุบันนี้กระแสการทำ ปากกระจับ ได้กลับมาเป็นเทรนด์อีกครั้ง วันนี้เราก็จะพาทุกคนมาทำความรู้จักเกี่ยวกับการทำปากกระจับมากยิ่งขึ้น ว่ามีทรงแบบไหนบ้าง และปากแบบไหนที่เหมาะที่จะทำปากกระจับ ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มหาคำตอบกันเลย

สารบัญบทความ

• ปากกระจับ คืออะไร? ลักษณะและความสวยที่คุณควรรู้
• ทำไมถึงควรทำปากกระจับ? กับ 5 เหตุผลที่คุณไม่ควรพลาด!
• เช็กด่วน! คุณเหมาะกับการทำปากกระจับหรือไม่?
• รู้ก่อนใคร กับทรงปากกระจับยอดฮิตที่คนนิยมทำมากที่สุด
• เผยเทคนิคการทำปากกระจับ ให้ริมฝีปากสวย ในแบบที่อยากได้
• การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดศัลยกรรมปากกระจับ
• เจาะให้ลึกถึงขั้นตอนการผ่าตัดศัลยกรรมปากกระจับ
• การดูแลหลังผ่าตัดศัลยกรรมปากกระจับ

ปากกระจับ คือ รูปทรงริมฝีปากที่มีลักษณะโค้งเว้าสวยงามคล้ายผลกระจับ มอบเสน่ห์ดึงดูดและความมั่นใจให้กับใบหน้า นิยมทำเพื่อเสริมมิติให้ริมฝีปาก แก้ไขรูปปากบาง หนา หรือไม่สมมาตร ให้กลับมาดูทรงสวยได้รูป ทำให้ยิ้มแล้วดูน่ารัก ถ่ายรูปขึ้นกล้อง โดยหลายคนยังเชื่อกันอีกว่า การมีปากกระจับ จะช่วยเสริมมงคล ให้เงินทองไหลมาเทมาอีกด้วย โดยลักษณะของ ปากกระจับ มีจุดเด่น ดังนี้

1. ความโค้งเว้าที่ชัดเจน : ริมฝีปากบนมีเส้นโค้งเว้าที่ชัดเจน และเป็นธรรมชาติ ทำให้ริมฝีปากดูสวยงามและโดดเด่น
2. มุมปากยกสูง : มุมปากที่ยกสูงช่วยให้ใบหน้าดูสดใสและเป็นมิตรยิ่งขึ้น
3. ริมฝีปากมีมิติ : ปากกระจับทำให้ริมฝีปากดูมีมิติและเต็มอิ่มมากขึ้น ช่วยเสริมเสน่ห์และความน่าดึงดูด

ลักษณะของปากกระจับที่สวยงาม :

ริมฝีปากบน :

• มีหยักโค้งชัดเจน
• มุมปากยกเล็กน้อย
• ความหนาริมฝีปากพอดี

ริมฝีปากล่าง :

• หนากว่าริมฝีปากบนเล็กน้อย
• มุมปากเชิดขึ้น
• รูปทรงโค้งมน

สัดส่วน :

• สัดส่วนของริมฝีปากบนและล่างอยู่ที่ 1:1.5
• ความหนาริมฝีปากบนและล่างอยู่ที่ 1:2

1. เพิ่มเสน่ห์ให้ริมฝีปาก : การทำปากกระจับจะช่วยให้ริมฝีปากดูอิ่มเอิบ โดดเด่น เพิ่มเสน่ห์ดึงดูด ยิ้มแล้วดูน่ารัก และมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น
2. แก้ไขรูปปาก : สำหรับคนที่มีริมฝีปากบาง หนา หรือไม่สมมาตร การทำปากกระจับจะช่วยปรับรูปปากให้ดูสมดุลกับใบหน้า และทำให้องค์รวมดูสวยงาม
3. เสริมมงคล : เชื่อกันว่าการทำปากกระจับจะช่วยเสริมโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา
4. เพิ่มความมั่นใจ : เมื่อมีริมฝีปากที่สวย ดึงดูด ย่อมส่งผลต่อความมั่นใจ กล้าแสดงออก และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
5. ปลอดภัย หายเร็ว : เทคโนโลยีการทำปากกระจับในปัจจุบันมีความทันสมัย ปลอดภัย ใช้เวลาพักฟื้นเพียงไม่กี่วัน

คนเราเกิดมาร้อยพ่อพันแม่ แน่นอนว่าปัญหาของแต่ละคนก็ย่อมแตกต่างกันออกไป ไม่ต่างจากทรงปาก เพราะมีมากมายหลายลักษณะ ในวันนี้เอง เราได้คัดลักษณะทรงปากที่มักพบเจอกันอยู่บ่อย ๆ มาด้วยกัน 5 ลักษณะ เรามาดูกันว่าในแต่ละลักษณะจะมีอะไรกันบ้าง แล้วลักษณะไหนที่เราเป็นอยู่ มาดูกัน

ลักษณะของคนที่ปากบาง

• ริมฝีปากบนและล่างมีความบาง : ทำให้ดูขาดมิติและความเต็มอิ่ม
• ขาดความเด่นชัด : เมื่อยิ้มแล้วเห็นเนื้อฟันชัดเจน ทำให้ดูไม่มีเสน่ห์

ลักษณะของคนที่ปากหนา

• ริมฝีปากหนาเกินไป : ทำให้ใบหน้าดูหนักหรือไม่สมดุล
• มักจะรู้สึกไม่สบายใจ : รู้สึกว่าริมฝีปากไม่เข้ากับใบหน้า และต้องการปรับสัดส่วนให้ดูสมส่วนมากขึ้น

ลักษณะของคนที่ปากคว่ำ

• มุมปากคว่ำลง : ทำให้ใบหน้าดูเศร้าหรือไม่สดใส จึงต้องการยกมุมปากให้ทรงปากดูยิ้มขึ้น
• ขาดความเป็นมิตร : อาจทำให้ดูมีอารมณ์ไม่ดี ดูเหมือนคนหน้าบึ้ง หน้าหาเรื่อง ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นแบบนั้น

ลักษณะของคนที่ปากไม่เท่ากัน

• ริมฝีปากบนและล่างไม่สมดุล : รูปปากดูไม่สมมาตร ทำให้ใบหน้าดูไม่สมมาตร จึงต้องปรับให้ริมฝีปากทั้งสองข้างเท่ากัน
• มีความไม่เสมอภาค : ริมฝีปากหนึ่งอาจบางกว่าอีกฝั่งหนึ่งอย่างชัดเจน

ลักษณะของคนที่ปากไม่เป็นทรง

• ขาดความชัดเจนของรูปทรง : ริมฝีปากดูไม่เป็นรูปร่างที่ชัดเจน
• ไม่มีเส้นโค้งเว้าที่ชัดเจน : ทำให้ขาดความดึงดูดและมิติ จึงต้องการปรับให้ริมฝีปากดูมีรูปทรงสวยงาม

ในกรณีที่มีปัญหาปากแหว่ง ก็สามารถเข้ามาแก้ไขรูปทรงปากให้กลับมามั่นใจได้อีกครั้ง ทั้งนี้ ก็ต้องเลือกทำกับศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่งใบหน้า เพื่อรับการรักษาปัญหาได้อย่างเหมาะสม

หลังจากที่เราได้รู้จักกับ “ปากกระจับ” กันแบบคร่าว ๆ ไปแล้ว ตอนนี้ขอพาทุกคนไปเจาะลึกกับ “ทรงปากกระจับยอดฮิต” ที่คนนิยมทำมากที่สุดในปัจจุบันกันดีกว่า รับรองว่าแต่ละทรงที่เลือกมาให้ดูต้องถูกใจหลาย ๆ คนแน่นอน ถ้าอยากรู้ว่าจะมีทรงอะไรบ้าง และแต่ละทรงจะเป็นอย่างไร มาเริ่มกันที่ทรงแรกได้เลย

ทรงปากกระจับเกาหลีมีความเป็นธรรมชาติ ริมฝีปากจะบาง และเรียวเล็ก มีความโค้งเว้าชัดเจน ทำให้ดูน่ารักและอ่อนหวาน เหมาะกับผู้ที่ต้องการลุคใส ๆ และเป็นธรรมชาติ ทรงนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่สาว ๆ ที่ชื่นชอบสไตล์การแต่งหน้าของเกาหลี

ปากกระจับสายฝอ มีความเต็มอิ่มและเซ็กซี่ ริมฝีปากจะมีความหนาและเด่นชัด ทำให้ดูมีเสน่ห์และเย้ายวน เหมาะกับผู้ที่ต้องการลุคเซ็กซี่ และมีความมั่นใจ ทรงนี้มักจะได้รับความนิยมในหมู่ผู้หญิงที่ชื่นชอบการแต่งหน้าสไตล์ตะวันตก

ทรงปากกระจับปีกนกมีความโค้งเว้าคล้ายกับปีกนก ริมฝีปากบนจะยกสูงและมีความโค้งเว้าที่ชัดเจน ทำให้ดูมีมิติและเต็มอิ่ม เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มความโดดเด่นให้กับริมฝีปาก ทรงนี้ช่วยเสริมความเป็นเอกลักษณ์และเพิ่มความน่ารักให้กับใบหน้าอีกด้วย

ทรงปากกระจับปีกนางฟ้ามีความละเอียดอ่อนและอ่อนหวาน ริมฝีปากจะมีความโค้งเว้าแบบปีกนางฟ้า ทำให้ดูนุ่มนวลและเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่ต้องการลุคหวาน ๆ และเป็นธรรมชาติ ทรงนี้ได้รับความนิยมในหมู่สาว ๆ ที่ต้องการความสวยงามแบบเป็นธรรมชาติ

ทรงปากกระจับสำหรับผู้ชายมีความเรียบง่ายและเป็นธรรมชาติ ริมฝีปากจะไม่บางหรือหนาเกินไป มีความสมดุลและเหมาะกับลักษณะใบหน้าของผู้ชาย เหมาะกับผู้ชายที่ต้องการเพิ่มความมั่นใจและเสริมลุคให้ดูดีขึ้น ทรงนี้ช่วยให้ใบหน้าดูมีเสน่ห์และดูดีมากขึ้น

ทั้งนี้ ในการเลือกทรงปากกระจับที่เหมาะสมกับใบหน้าและความต้องการของแต่ละบุคคล นับว่าเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงาม แต่ยังเสริมความมั่นใจและความสุขให้เราได้อีกด้วย

การทำปากกระจับเป็นวิธีการปรับรูปทรงริมฝีปากให้มีลักษณะเป็นรูปกระจับ มีความเรียวสวย ทำให้ริมฝีปากดูเป็นธรรมชาติ และเข้ากับใบหน้ามากขึ้น โดยการทำปากกระจับสามารถทำได้ 2 วิธี ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพริมฝีปากของแต่ละบุคคล ดังนี้

การฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับเป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด และเป็นที่ยอดฮิตมากในปัจจุบัน โดยฟิลเลอร์ที่ใช้จะเป็นสารเติมเต็ม เช่น Hyaluronic Acid ที่มีความปลอดภัยและสามารถสลายตัวได้ตามธรรมชาติ

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ

• ปรึกษาแพทย์ : ตรวจสอบและวางแผนรูปทรงที่ต้องการ
• ฉีดฟิลเลอร์ : แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในริมฝีปากเพื่อปรับรูปทรงให้เป็นกระจับ
• ดูแลหลังการฉีด : ริมฝีปากอาจมีอาการบวมเล็กน้อย และฟิลเลอร์จะเข้าที่ในเวลา 1 – 2 สัปดาห์

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปาก

• ไม่ต้องผ่าตัด : การฉีดฟิลเลอร์เป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัด ทำให้ลดความเสี่ยงและไม่มีแผลผ่าตัด
• ฟื้นตัวเร็ว : การฉีดฟิลเลอร์มีเวลาฟื้นตัวที่รวดเร็ว สามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้เกือบจะทันทีหลังการฉีด
• ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ : ฟิลเลอร์สามารถปรับรูปทรงริมฝีปากได้อย่างละเอียด ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
• ปรับแต่งได้ง่าย : สามารถปรับแต่งปริมาณฟิลเลอร์ได้ตามต้องการ เพื่อให้ได้รูปทรงริมฝีปากที่พอใจ
• การฉีดที่ไม่ซับซ้อน : กระบวนการฉีดฟิลเลอร์ใช้เวลาไม่นาน โดยปกติจะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง
• ปลอดภัย : ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้ เช่น Hyaluronic Acid เป็นสารที่ร่างกายสามารถสลายได้ตามธรรมชาติ ทำให้มีความปลอดภัยสูง
• ปรับปรุงรูปลักษณ์ : สามารถปรับปรุงรูปลักษณ์ของริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มและมีรูปทรงที่สวยงามได้ทันที
• ลดเลือนริ้วรอย : ฟิลเลอร์สามารถช่วยลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกบริเวณริมฝีปากได้เช่นกัน
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน : ฟิลเลอร์บางชนิดสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้ริมฝีปากมีความยืดหยุ่นและกระชับมากขึ้น

ข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์ปาก

• ผลลัพธ์ไม่ถาวร : ฟิลเลอร์สามารถสลายตัวได้ตามธรรมชาติ ทำให้ต้องฉีดซ้ำทุก 6-12 เดือนเพื่อรักษารูปทรง
• อาการบวมและช้ำ : หลังการฉีดฟิลเลอร์อาจมีอาการบวม ช้ำ หรือแดงบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาจใช้เวลาหลายวันถึงจะหาย
• ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ : แม้ว่าความเสี่ยงจะน้อย แต่การฉีดฟิลเลอร์ยังคงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ หากไม่ได้ทำในสถานที่ที่สะอาดและปลอดเชื้อ
• ปัญหาการแพ้ฟิลเลอร์ : บางคนอาจเกิดการแพ้ฟิลเลอร์ ซึ่งทำให้เกิดอาการบวมแดงและคัน
• ความไม่สมดุลของริมฝีปาก : หากฉีดฟิลเลอร์ไม่ถูกวิธี อาจทำให้ริมฝีปากมีลักษณะไม่สมดุล หรือไม่เป็นธรรมชาติ
• การเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์ : ฟิลเลอร์อาจเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งที่ไม่ต้องการ ทำให้รูปทรงริมฝีปากเปลี่ยนแปลง
• ค่าใช้จ่าย : เนื่องจากผลลัพธ์ไม่ถาวร การต้องฉีดซ้ำบ่อยครั้งอาจทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในระยะยาว

การผ่าตัดปากกระจับเป็นวิธีที่ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ถาวรและเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงระยะยาว การผ่าตัดนี้จะทำโดยแพทย์เฉพาะทางด้านศัลยกรรมตกแต่ง

ข้อดีการผ่าตัดศัลยกรรมปากกระจับ

• ผลลัพธ์ถาวร : การผ่าตัดปากกระจับให้ผลลัพธ์ที่ถาวร ไม่ต้องทำการปรับแก้หรือซ้ำหลายครั้งเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์
• ปรับรูปทรงได้ชัดเจน : การผ่าตัดสามารถปรับรูปทรงริมฝีปากได้อย่างละเอียดและชัดเจน ทำให้ได้รูปทรงที่ตรงกับความต้องการของผู้ทำศัลยกรรม
• แก้ไขปัญหาริมฝีปากหนา : สามารถแก้ไขปัญหาริมฝีปากที่หนาเกินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ริมฝีปากมีความเรียวและได้รูปทรงมากขึ้น
• ลดริ้วรอย : การผ่าตัดสามารถช่วยลดริ้วรอยและร่องลึกบริเวณริมฝีปาก ทำให้ริมฝีปากดูอ่อนเยาว์และเรียบเนียนขึ้น
• ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ : การผ่าตัดโดยแพทย์เฉพาะทางสามารถทำให้ริมฝีปากดูเป็นธรรมชาติและเข้ากับใบหน้าได้อย่างสมดุล
• ไม่มีการแพ้ : ไม่มีความเสี่ยงที่จะเกิดการแพ้สารเติมเต็ม เช่น ฟิลเลอร์ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดปรับเนื้อเยื่อของตัวเอง
• เสริมความมั่นใจ : ผลลัพธ์ที่ได้จากการผ่าตัดมักจะทำให้ผู้ทำรู้สึกมั่นใจมากขึ้น เนื่องจากริมฝีปากมีรูปทรงที่สวยงามและเข้ากับใบหน้า
• กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน : การผ่าตัดสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อใหม่ ทำให้ริมฝีปากมีความยืดหยุ่นและกระชับมากขึ้น

ข้อจำกัดการผ่าตัดศัลยกรรมปากกระจับ

• การฟื้นตัวที่ใช้เวลานาน : หลังการผ่าตัดอาจต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือแม้แต่เดือนเพื่อให้ริมฝีปากหายดีและกลับสู่สภาพปกติ
• ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ : แม้ว่าการผ่าตัดจะดำเนินการในสภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดเชื้อ แต่ยังมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหลังการผ่าตัด
• อาการบวมและช้ำ : อาจมีอาการบวม ช้ำ และเจ็บปวดในช่วงแรกหลังการผ่าตัด ซึ่งอาจใช้เวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์ถึงจะหาย
• แผลเป็น : การผ่าตัดอาจทิ้งแผลเป็นไว้ แม้ว่าจะมีการดูแลแผลอย่างดีแล้วก็ตาม
• ความเสี่ยงในการแพ้ยาชา : การผ่าตัดต้องใช้ยาชาหรือยาสลบ ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพ้หรือปฏิกิริยาทางลบต่อยาชา
• ค่าใช้จ่ายสูง : การผ่าตัดศัลยกรรมปากกระจับมักมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าเมื่อเทียบกับการฉีดฟิลเลอร์
• ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามคาดหวัง : ในบางกรณีผลลัพธ์ที่ได้อาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่พึงพอใจ ซึ่งอาจต้องทำการแก้ไขเพิ่มเติม
• ต้องมีการเตรียมตัวและดูแลหลังผ่าตัด : การผ่าตัดต้องมีการเตรียมตัวล่วงหน้าและการดูแลหลังผ่าตัดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
• ภาวะแทรกซ้อน : มีความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น เลือดออกมากเกินไป การเกิดแผลเป็นที่ไม่สวยงาม หรือการสูญเสียความรู้สึกในบริเวณริมฝีปาก

ก่อนผ่าตัดทำปากกระจับจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

• งดรับประทานยาละลายลิ่มเลือด ยาสเตียรอยด์ ยาแก้ปวด ยาลดกล้ามเนื้ออักเสบ วิตามิน และอาหารเสริมทุกชนิด อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
• งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด และต่อเนื่องอย่างน้อย 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
• เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ควรตื่นเต้นมากเกินไป
• ควรทราบว่าหลังผ่าตัดย่อมเกิดการบวม ซึ่งต้องใช้เวลาในการหายของแผลหรือความเคยชินกับภาพลักษณ์ใหม่

นอกจากการเตรียมตัวด้วยตนเองแล้วหากมีข้อมูลเฉพาะจะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำหัตถการ

• แจ้งให้ศัลยแพทย์ทราบข้อมูลโรคประจำตัว ยาโรคประจำตัว ประวัติการผ่าตัด ประวัติการแพ้ยา รวมถึงอาหารเสริมที่รับประทาน
• แจ้งแพทย์หากมีอาการป่วยปัจจุบัน เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ ท้องเสีย มีแผลติดเชื้อ ตาแดง ตาเจ็บ ฯลฯ

ในวันเข้ารับการผ่าตัด จะต้องเตรียมตัวเพิ่มเติมให้พร้อม

• อาบน้ำสระผมให้สะอาดก่อนวันผ่าตัด
• เตรียมเสื้อผ้าที่ใส่สบายและหลวมๆ เพื่อสะดวกต่อการเปลี่ยนหลังผ่าตัด
• แจ้งญาติหรือเพื่อนให้มารับกลับบ้านหลังผ่าตัด
• ควรมาเตรียมตัวก่อนเวลาผ่าตัด 1-2 ชั่วโมง

ข้อควรรู้เพิ่มเติม

• การผ่าตัดปากกระจับจะใช้ยาชาเฉพาะที่ ไม่จำเป็นต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล
• ผู้รับบริการสามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติหลังผ่าตัด
• กรณีมีอาการปวดหรือไม่สบายหลังผ่าตัด สามารถทานยาแก้ปวดตามแพทย์สั่ง
• แผลผ่าตัดจะหายสนิทภายใน 1-2 เดือน

1. การออกแบบรูปทรงปากและกำหนดจุดตัดหนัง

แพทย์จะทำการวิเคราะห์รูปปากและโครงสร้างใบหน้าของคนไข้ จากนั้นจะมีการตัดสินใจร่วมกับคนไข้ในการออกแบบรูปทรงปากที่ต้องการ

เมื่อตกลงเรียบร้อย แพทย์จะกำหนดจุดและขนาดของเนื้อเยื่อริมฝีปากที่จะต้องตัดออกอย่างละเอียด

2. เตรียมความพร้อมสำหรับการผ่าตัด

ในวันผ่าตัดปากกระจับ เจ้าหน้าที่จะเชิญคนไข้ขึ้นนอนบนเตียงผ่าตัด ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อบริเวณใบหน้าโดยรอบ คลุมผ้าห่มและผ้ากันเปื้อนเพื่อความสะอาด ปิดตาและใบหน้าด้วยผ้าผ่าตัด เหลือเฉพาะบริเวณริมฝีปากไว้

3. การฉีดยาชาและผ่าตัด

แพทย์ทำการฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณริมฝีปากที่จะทำการผ่าตัด ก่อนจะกรีดแผลตามแนวที่กำหนดไว้ แล้วเริ่มตัดเนื้อเยื่อริมฝีปากส่วนเกินออกอย่างละเอียดและแม่นยำ เพื่อปรับแต่งรูปทรงริมฝีปากให้ได้ตามที่ออกแบบไว้

4. การเย็บปิดแผล

เมื่อปรับทรงริมฝีปากกระจับเป็นที่เรียบร้อย แพทย์เย็บปิดแผลด้วยไหมเย็บแผลชนิดพิเศษขนาดเล็ก ซึ่งจะเย็บอย่างประณีตเพื่อให้เกิดรอยแผลเป็นน้อยที่สุด

5. การทำความสะอาดและดูแลหลังผ่าตัด

ทำความสะอาดคราบเบตาดีนและคราบเลือดออก จากนั้นประคบเย็นเพื่อลดอาการบวม พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลรักษาหลังผ่าตัดและนัดติดตามผลการผ่าตัดต่อไป

• ประคบเย็นภายใน 48 ชั่วโมงแรกหลังการผ่าตัด เพื่อลดอาการบวม และประคบเย็นต่อในช่วง 1 – 3 วันแรกหลังผ่าตัด เพื่อลดรอยเขียวช้ำ
• หลีกเลี่ยงการขยับใบหน้า ขยับปาก หรือแสดงอารมณ์ที่ต้องขยับกล้ามเนื้อบริเวณรอบปาก 2 – 4 สัปดาห์หลังผ่าตัด
• ระวังไม่ให้แผลเปียกน้ำอย่างน้อย 3 – 5 วันหลังการผ่าตัด หากแผลเปียกควรใช้ผ้าสะอาดซับบริเวณแผลให้แห้งทุกครั้ง
• สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด ควรนอนยกศีรษะสูง
• รับประทานยาตามที่ศัลยแพทย์จัดให้จนครบ
• งดการรับประทานอาหารหมักดองเป็นเวลา 1 – 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
• งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่เป็นเวลา 1 – 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
• ศัลยแพทย์นัดตัดไหมเมื่อครบ 7 – 10 วัน
• นัดติดตามอาการหลังผ่าตัดเมื่อครบ 1 เดือน, 3 เดือน, 6 เดือน และ 1 ปี

เป็นอย่างไรกันบ้าง กับข้อมูลที่เตรียมมาให้ในวันนี้เกี่ยวกับปากกระจับ หวังว่าทุกคนจะถูกใจกัน และสำหรับใครที่ต้องการปลดล็อกเสน่ห์ด้วยการทำปากกระจับ! ไม่ว่าคุณจะด้วยวิธีไหน สิ่งที่จะได้กลับไปเหมือนกัน ก็คือความมั่นใจและความสวยที่เพิ่มขึ้นจนไม่อยากจะเชื่อเลยก็ว่าได้ และสำหรับใครที่ต้องการศัลยกรรมปากกระจับ ที่โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC เราพร้อมให้คำปรึกษาโดยทีมศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทาง ที่พร้อมจะเปลี่ยนลุค เพิ่มเสน่ห์ความสวยให้ใหม่ ในฉบับที่ดีที่สุดได้อย่างแน่นอน