ถ้าเปรียบความงามเป็นเหมือนเพชรก้อนหนึ่ง กว่าจะเป็นเพชรที่สวยงามได้ก็ต้องผ่านการเจียระไนเสียก่อน ดังนั้นอยากสวยเป๊ะ ไม่ว่าจะเพื่อหน้าที่การงาน หรือภาพลักษณ์ก็ตาม การเริ่มดูแลตัวเองก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี แต่ก็มักมีอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นกับบางคนที่ไม่ได้เกิดมาเพียบพร้อม แน่นอนการเลือกทำศัลยกรรมเพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นก็เป็นอีกหนึ่งวิธีทำจมูกที่สามารถเปลี่ยนตัวเองได้อย่างชัดเจน เพราะทุกคนควรจะเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด

ซึ่งหากพูดถึงวงการความงาม การเสริมจมูกเป็นที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็ว่า เนื่องจากเรามักคิดว่าหากมีทรงจมูก พุ่ง โด่ง เป็นสัน จะทำให้หน้าดูมิติขึ้น และแน่นอนว่าในทุกวันนี้มีเทคนิคการทำจมูกหลายไม่ว่าจะเป็นการทำจมูกแบบ open คือการปรับและจัดเรียงโครงสร้างจมูกใหม่ หรือการทำจมูกแบบ Closed ซึ่งวันนี้แอดจะพามารู้จักกับการเสริมจมูกแบบโอเพ่นที่กำลังเป็นกระแสนิยมในทุกเพศทุกวัยกันว่าจะปังหรือพัง พร้อมแล้วไปอ่านกัน!

สารบัญบทความ

บอกลาดั้งแหมบด้วยการทำจมูกแบบ open

จบปัญหาดั้งแหมบมาทำความรู้จัก ทําจมูกโอเพ่น คืออะไรกัน ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าการทำจมูกแบบโอเพ่นนั้นเป็นศัลยกรรมผ่าตัดเปิดโพรงจมูกเพื่อให้เห็นโครงสร้างภายใน โดยศัลยแพทย์จะเปิดแผลบริเวณฐานจมูกเลาะหนังและไขมันเข้าไปด้านในจมูกถึงกระดูกจมูก (Nasal Bone) จากนั้นจะทำการตั้งฐานจมูกหรือที่เรียกว่าตอกฐานเพื่อสร้างความสมั่นคงของจมูก

แน่นอนว่าศัลยแพทย์จะเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นจากตอนที่ตกลงในขั้นตอนการปรึกษาแล้ว เพราะในบางคนอาจมีปัญหา ฮัมพ์จมูกเยอะ หรือการมีจมูกคด รวมไปถึงกลุ่มคนที่มีปัญหาทางเดินหายใจ เทคนิคที่ช่วยแก้ไขก็แตกต่างกันออกไปค่ะ

การเลือกเทคนิคที่เหมาะสมสำหรับการเสริมจมูกและการเลือกสถานที่ให้บริการเป็นอีกเรื่องสำคัญที่ควรพิจารณาเป็นอันดับต้น ๆ ขอแนะนำให้โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี นอกจากเครื่องมือทางการแพทย์ที่นี่จะทันสมัยแล้วทางเรายังเป็นจุดศูนย์รวมศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการทำจมูกโอเพ่นโดยเฉพาะ อีกทั้งเรายังใส่ใจและจริงใจต่อผู้เข้าใช้บริการ ทำให้ผู้ที่เคยเข้ามาใช้บริการต่างประทับใจทั้งบริการและผลลัพธ์

ทำจมูกแบบ open แพทย์ทำอะไรกับจมูกของเราบ้าง?

บอกลาปัญหาจมูกสั้น ช่วยให้ปลายพุ่ง

การทำจมูกแบบ Open ช่วยแก้ปัญหาจมูกสั้นและปลายจมูกใหญ่ โดยการยืดกระดูกแกนกลางและเย็บผนังกั้นจมูก ศัลยแพทย์จะปรับตำแหน่งกระดูกอ่อนแกนกลางจมูกให้ยาวขึ้น ทำให้ปลายจมูกโด่งและพุ่งขึ้น นอกจากนี้การเย็บกระดูกอ่อนปลายจมูกให้ชิดกันจะช่วยให้ปลายจมูกยกและดูเรียวเล็ก ข้อดี ปลายจมูกดูยาวและพุ่ง สมดุลกับสันจมูก เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีปลายจมูกสั้นและปลายจมูกกว้าง

ทรงจมูกเรียวเล็กด้วยการตอกฐานจมูก

การตอกฐานจมูกหรือการเหลาฐานจมูกช่วยลดความหนาของฐานกระดูกบริเวณสันจมูก ศัลยแพทย์จะตอกฐานกระดูกเพื่อนำกระดูกส่วนเกินออก ทำให้ฐานจมูกดูเรียวเล็กและสมดุล เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีฐานจมูกกว้าง กระดูกนูน คด หรือผิดรูป ข้อดี ทำให้ฐานจมูกเรียวเล็กและสมดุล เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีฐานจมูกกว้าง นูน คด ผิดรูป

เหลาหรือตะไบฮัมพ์เพื่อให้จมูกเรียบเนียน

การเหลาหรือตะไบฮัมพ์เป็นการลดความสูงของฮัมพ์กลางจมูก ทำให้กระดูกฐานจมูกเรียบเนียนและสามารถวางวัสดุเสริมจมูกได้เรียบสนิท เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีจมูกฮัมพ์สูง เนื้อจมูกน้อย และปลายจมูกบาง ข้อดี ฐานจมูกเรียบ วางวัสดุเสริมจมูกได้แนบสนิท  เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีจมูกฮัมพ์สูงและเนื้อจมูกน้อย

แก้ไขทางเดินหายใจให้โล่งขึ้น

การแก้ไขทางเดินหายใจโดยศัลยแพทย์จะปรับแต่งโครงสร้างภายในจมูกให้ตรงและปกติ ช่วยให้ทางเดินหายใจโล่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีฐานจมูกคดหรือแกนจมูกเบี้ยว การผ่าตัดนี้ต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์สูง ข้อดี ทางเดินหายใจโล่งขึ้น แกนจมูกตรง  เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีฐานจมูกคดหรือแกนจมูกเบี้ยว

การทำจมูกแบบ Open แตกต่างกับ Closed อย่างไร

การทำจมูกสามารถแบ่งออกเป็นสองวิธีหลัก คือ การทำจมูกแบบ Open และแบบ Closed ซึ่งแต่ละวิธีมีขั้นตอนและข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกัน การทำจมูกแบบ Open จะมีการเปิดแผลที่โครงสร้างจมูก ทำให้ศัลยแพทย์สามารถปรับแต่งได้อย่างละเอียด เหมาะสำหรับการแก้ไขโครงสร้างที่ซับซ้อน

ขณะที่การทำจมูกแบบ Closed จะเน้นการซ่อนแผลในโพรงจมูก เหมาะสำหรับการปรับแต่งรูปทรงเบื้องต้นหรือการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีการทำจมูกแบบ Semi-Open เกิดขึ้นมาในวงการความงาม แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นแนวคิดทางการตลาดเพียงเท่านั้น เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้แล้วว่า แบบ Open และแบบ Closed ต่างกันอย่างไรมาดูกันว่าแต่ละเทคนิคจะดีอย่างไร และเทคนิคไหนเหมาะกับเรา

การทำจมูกแบบ Open

เทคนิคนี้ศัลยแพทย์จะเปิดแผลบริเวณฐานจมูกและยกผิวหนังขึ้นเพื่อเข้าไปแก้ไขโครงสร้างภายในจมูกโดยตรง ทำให้สามารถเห็นรายละเอียดภายในจมูกได้ชัดเจน ข้อดีของวิธีนี้คือสามารถแก้ไขปัญหาโครงสร้างจมูกที่ซับซ้อนได้ดี เช่น การแก้ไขปลายจมูก การเสริมโครงสร้างใหม่ หรือการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการทำจมูกครั้งก่อน เหมาสำหรับผู้ที่ต้องการความพุ่งของปลายจมูก ผู้มีที่จมูกคด ฮัมพ์หนา จมูกแหมบหรือแบนราบจากโรคทางพันธุกรรม ข้อเสียคือแผลผ่าตัดที่ฐานจมูกอาจจะเห็นได้หลังการผ่าตัดและใช้เวลาพักฟื้นนานกว่า

การทำจมูกแบบ Closed

เทคนิคนี้ศัลยแพทย์จะทำการเปิดแผลภายในรูด้านข้างในโพรงจมูกเท่านั้น ไม่ต้องยกผิวหนังขึ้น ทำให้ไม่เห็นแผลผ่าตัดภายนอก ข้อดีของวิธีนี้คือแผลผ่าตัดไม่เห็นจากภายนอกและเวลาพักฟื้นไวกว่า เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาที่ไม่ซับซ้อน และมีปัญหาจมูกไม่เยอะ เช่น การเสริมสันจมูกหรือตัดกระดูกฮัมพ์ ข้อเสียคือการเข้าถึงโครงสร้างภายในจมูกมีจำกัด ทำให้ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้เท่ากับการทำจมูกแบบ Open

จมูกแบบไหนที่ควรทำจมูกแบบ open

การทำจมูกแบบ Open คือ วิธีการผ่าตัดที่เหมาะสมกับผู้ที่มีโครงสร้างจมูกซับซ้อนหรือปัญหาค่อนข้างเยอะที่ต้องการการแก้ไขอย่างละเอียด หรือการแก้จมูกแบบโอเพ่นคือวิธีที่สามารถปรับโครงสร้างใหม่ได้ดีที่สุด ถ้าอยากรู้แล้ว แล้วใครบ้างเหมาะสมที่จะทำจมูกแบบ open ไปดูกัน

  • ปลายจมูกใหญ่หรือหนา การทำจมูกทรงโอเพ่น ช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถปรับแต่งและลดขนาดปลายจมูกได้อย่างแม่นยำ
  • จมูกคดหรือเบี้ยว วิธีนี้ช่วยให้สามารถแก้ไขโครงสร้างภายในจมูกได้เต็มที่ ทำให้สามารถปรับแก้ได้ตามต้องการ จึงทำให้ได้ทรงจมูกสวย
  • จมูกสั้น การทำจมูกแบบ Open ช่วยยืดความยาวของจมูกและปรับโครงสร้างให้สมดุลมากขึ้น
  • ปลายจมูกตึงรั้งผิดรูป วิธีนี้ช่วยให้ศัลยแพทย์สามารถเข้าถึงและแก้ไขปัญหาได้โดยตรง
  • เนื้อจมูกหนา การผ่าตัดแบบ Open ช่วยให้สามารถลดความหนาของเนื้อจมูกและปรับแต่งให้มีรูปร่างที่ต้องการได้

ทรงจมูกสวยด้วย 3 เทคนิคที่ SLC Hospital เลือกใช้

  1. การใช้ซิลิโคนร่วมกับกระดูกอ่อนหลังหู (Cartilage Grafting)

เทคนิคนี้ผสมผสานการใช้ซิลิโคนทางการแพทย์เพื่อเสริมความสูงบริเวณสันจมูก และใช้กระดูกอ่อนหลังหูมาเย็บรองปลายซิลิโคน กระดูกอ่อนหลังหูมีความแข็งแรง รองรับความตึงได้ดี มีความปลอดภัยสูง ไม่เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน เหมาะกับผู้ที่มีปลายจมูกบางและต้องการให้ปลายจมูกพุ่งชัด

  1. การใช้ซิลิโคนร่วมกับกระดูกซี่โครง (Autologous Bone Grafting)

เทคนิคนี้ใช้ซิลิโคนเสริมสันจมูกให้โด่ง และใช้กระดูกอ่อนซี่โครงมาต่อบริเวณปลายจมูก กระดูกอ่อนซี่โครงมีความแข็งแรงมากกว่าและลดการเกิดพังผืด เหมาะกับผู้ที่มีปลายจมูกบางและปลายจมูกตึงรั้งผิดรูป

  1. การใช้กระดูกอ่อนซี่โครงจากร่างกายตัวเองไม่ใช้ซิลิโคน (Rib Cartilage Grafting)

เทคนิคนี้ใช้กระดูกอ่อนซี่โครงจากร่างกายตัวเองทั้งหมดในการเสริมจมูก ไม่มีปฏิกิริยาต่อต้าน ลดการอักเสบ การติดเชื้อ และการเกิดพังผืด ผลลัพธ์ที่ได้ดูสวยงามและเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ซิลิโคนและต้องการเสริมจมูกโดยไม่ใช้สิ่งแปลกปลอม

ทั้งนี้ หากผู้รับบริการไม่สามารถใช้กระดูกซี่โครงจากร่างกายตัวเองได้ สามารถใช้วัสดุทางการแพทย์อย่างกระดูกซี่โครงเทียมหรือ TnR Mesh ซึ่งกระดูกซี่โครงเทียมเป็นวัสดุที่ผ่านการฆ่าเชื้อ มีคุณสมบัติคล้ายกับกระดูกอ่อนจริง ส่วน TnR Mesh เป็นเนื้อเยื่อเทียมสังเคราะห์ที่นิ่มและมีรูพรุน เหมาะสำหรับการรองปลายจมูกและการเสริมสันจมูก

ข้อดี ไม่เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน ลดการอักเสบ ติดเชื้อ และพังผืด เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ซิลิโคนและต้องการเสริมจมูกโดยไม่ใช้สิ่งแปลกปลอม สำหรับคำถามยอดฮิต “ทําจมูกแบบโอเพ่น กี่วันหาย” บอกเลยว่าหากดูแลทำตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ภายใน 14 วันแผลก็จะเริ่มดีขึ้นใช้ชีวิตได้ปกติเลยค่ะซิส

ข้อดีและข้อจำกัดของการทำจมูกแบบ open

การทำจมูกแบบ Open คือ เทคนิคการผ่าตัดที่ศัลยแพทย์จะเปิดแผลบริเวณฐานจมูกเพื่อให้สามารถเข้าถึงและปรับแต่งโครงสร้างภายในจมูกได้อย่างละเอียด แม้ว่าวิธีนี้จะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อจำกัดที่แอดอยากให้ทุกคนเก็บไว้คิดพิจารณาด้วยนะคะ

ข้อดีของการศัลยกรรมเสริมจมูกโอเพ่น

หนึ่งในข้อดีหลักของการทำ open rhinoplasty คือ ศัลยแพทย์สามารถมองเห็นและปรับแต่งโครงสร้างจมูกได้อย่างละเอียดและแม่นยำ ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน เช่น จมูกคด ปลายจมูกใหญ่ หรือเบี้ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ การผ่าตัดแบบนี้ช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยน จัดเรียง และยืดความยาวของปลายจมูกได้ตามต้องการ ทำให้จมูกดูโดดเด่นและสวยงามตามความต้องการของผู้เข้ารับการผ่าตัด ผลลัพธ์จากการทำจมูกแบบ Open มักมีความคงทนและยาวนาน เนื่องจากศัลยแพทย์สามารถปรับแต่งโครงสร้างภายในได้โดยตรง สำหรับใครที่สงสัยว่า เสริมจมูกแบบโอเพ่นกี่เดือนเข้าที่ คำตอบคือประมาณ 3-6 เดือนค่ะ

ข้อจำกัดของการศัลยกรรมเสริมจมูกโอเพ่น

อย่างไรก็ตาม การเสริมจมูกแบบโอเพ่น ข้อเสียหรือข้อจำกัดอยู่เช่นกัน หนึ่งในนั้นคือแผลผ่าตัดที่ฐานจมูก ซึ่งอาจจะเห็นได้หลังการผ่าตัด นอกจากนี้ การผ่าตัดทำจมูกแบบ Open ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าการทำจมูกแบบ Closed อีกทั้งยังมีความเสี่ยงในการผ่าตัด เช่น การติดเชื้อ การเกิดแผลเป็น หรือการเสียเลือดมาก ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่มักจะพบในการผ่าตัดทุกประเภท เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นหลังผ่าตัด ควรปฏิบัติตามแพทย์อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายในการทำจมูกแบบ Open มักจะสูงกว่าเทคนิคอื่น เนื่องจากเป็นวิธีการผ่าตัดที่ซับซ้อนและต้องใช้ทักษะสูงของศัลยแพทย์

เตรียมตัวเบื้องต้นก่อนทำจมูกแบบ open

การเสริมจมูก Open เป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความระมัดระวังและการเตรียมตัวอย่างดีเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ก่อนที่จะเข้ารับการผ่าตัด คุณควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำจมูกแบบ Open และปรึกษาศัลยแพทย์ เพื่อทำความเข้าใจขั้นตอน ผลลัพธ์ ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และควรให้ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพทั่วไป โรคประจำตัว หรือยาที่กำลังใช้อยู่ให้แพทย์ทราบเพื่อประเมินความพร้อมของร่างกาย

  • ศึกษาข้อมูลการทำจมูกแบบ Open เพื่อเข้าใจขั้นตอนการผ่าตัด ผลลัพธ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
  • ปรึกษาศัลยแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมและตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับการผ่าตัด
  • แจ้งข้อมูลสุขภาพ โรคประจำตัว หรือยาที่ใช้อยู่ให้แพทย์ทราบ
  • งดยาแอสไพริน ยาต้านการอักเสบ และอาหารเสริมตามคำแนะนำแพทย์
  • งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ในช่วง 2-4 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
  • เตรียมพื้นที่บ้านให้พร้อมสำหรับการพักฟื้น เช่น หมอนสูงเพื่อยกศีรษะ
  • งดการแต่งหน้าและใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในวันผ่าตัด
  • พักผ่อนให้เพียงพอและเตรียมตัวทางจิตใจเพื่อความพร้อมในการผ่าตัด

ขั้นตอนการเสริมจมูกแบบ Open

  1. วิสัญญีแพทย์จะใช้การดมยาสลบ เพื่อให้ผู้ป่วยไม่รู้สึกเจ็บปวดระหว่างการผ่าตัด
  2. ศัลยแพทย์จะทำการเปิดแผลจมูกโอเพ่นบริเวณฐานจมูก  โดยเลาะผิวหนังและไขมันเพื่อเปิดให้เห็นถึงด้านใน
  3. จากนั้น จะทำการเลาะหนังตั้งแต่บริเวณฐานจมูกเข้าไปถึง กระดูกอ่อนกั้นกลางจมูก (Septal Cartilage) และทำการตั้งฐานจมูกเพื่อให้เป็นเสารับความมั่นคงของจมูก
  4. ในกรณีที่ต้องแก้ไขการเสริมจมูกเดิม ศัลยแพทย์จะต้องเลาะสารเหลวที่ตกค้างออกก่อน
  5. ศัลยแพทย์จะแก้ไขปัญหาให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้รับบริการ เช่น การเหลาฮัมพ์ ตอกบานจมูก ตัดฐานกระดูก ปรับสันจมูกให้เข้าที่มากขึ้น หรือแก้ไขสันจมูกนูนผิดรูป ปรับโครงสร้างด้วยการยืดผนังกั้นจมูก
  6.  วางซิลิโคนหรือกระดูกซี่โครงที่เหลาได้ทรงแล้ววางทับสันจมูก รองปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อน หรือ กระดูกซี่โครง ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ได้คุยกับศัลยแพทย์ไว้ตั้งแต่แรก
  7. ศัลยแพทย์จะเย็บปิดแผลอย่างประณีต และดามจมูกด้วยเฝือก

อยากได้ทรงจมูกสวยปลายพุ่งต้อง ทำจมูกแบบ Open

เอาล่ะค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างกับคำถามที่คุณสงสัยเกี่ยวกับการทำจมูกแบบ Open คืออะไรนั้น คงได้รับคำตอบและช่วยให้ตัดสินใจได้ไม่มากก็น้อยกันนะคะ ซึ่งทางโรงพยาบาลศัลยกรรม SLC เรามีบริการศัลยกรรมเสริมจมูกโอเพ่น (Open Rhinoplasty) ซึ่งผ่าตัดโดยศัลยแพทย์เฉพาะทาง หากสนใจอยากจมูกสวย พุ่ง แบบเลือกได้ต้องมาที่ SLC Hospital ยกหูเลยตอนนี้ 027149555 หรือแอดไลน์ได้ที่ @SLCHospital


อ้างอิง

A systematic approach to open rhinoplasty, C. Spencer Cochran MD, Vincent P. Marin MD. (2007). A systematic approach to open rhinoplasty, Operative Techniques in Otolaryngology, 166-171. S1043-1810(07)00072-3

Arash Momeni, MD, Ronald P. Gruber, MD, (October 2016) Primary Open Rhinoplasty Aesthetic Surgery Journal, Volume 36, Issue 9, https://doi.org/10.1093/asj/sjw093

Tagged : #.