แก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
อาการ ตาปรือ อาจดูเป็นเพียงความผิดปกติเล็กน้อยของเปลือกตา แต่ในบางกรณี มันอาจเป็นสัญญาณของ ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis) ซึ่งส่งผลต่อทั้งการมองเห็นและคุณภาพชีวิตโดยรวม คนที่มีภาวะนี้มักรู้สึกว่าตาตัวเองดูเหนื่อยล้าตลอดเวลา บางครั้งอาจต้องเงยหน้าหรือเลิกคิ้วเพื่อให้มองเห็นชัดขึ้น หากอาการรุนแรง อาจทำให้มุมมองแคบลงจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การขับรถ การอ่านหนังสือ หรือแม้แต่การสื่อสารกับผู้อื่น ภาวะนี้สามารถเกิดได้กับทุกช่วงวัย ตั้งแต่เด็กที่มีความผิดปกติแต่กำเนิด ไปจนถึงผู้สูงอายุที่กล้ามเนื้อตาเสื่อมลงตามธรรมชาติ และในบางกรณีอาจเป็นสัญญาณของโรคทางระบบประสาทหรือกล้ามเนื้อ หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการตาปรือที่ผิดปกติ ควรให้ความสนใจและรีบหาทางแก้ไขก่อนที่อาการจะส่งผลกระทบในระยะยาว แล้วมีวิธีแก้ไขหรือไม่? วันนี้เราจะพาคุณมารู้จักภาวะ กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง พร้อมเคล็ดลับดูแลดวงตา และแนวทางแก้ไขจากจักษุแพทย์โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC ห้ามพลาด!
ภาวะของกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเกิดจากอะไร อันตรายไหม?
ภาวะ กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis) เกิดจากความผิดปกติของ Levator muscle ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่ยกเปลือกตาขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อนี้อ่อนแรง จะทำให้เปลือกตาตกลงมามากกว่าปกติ ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับตาข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้ ภาวะนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
- กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแต่กำเนิด (Congenital Ptosis) เกิดขึ้นตั้งแต่เด็ก เนื่องจากกล้ามเนื้อ Levator พัฒนาไม่สมบูรณ์ตั้งแต่อยู่ในครรภ์
- กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่เกิดภายหลัง (Acquired Ptosis) เกิดขึ้นในภายหลัง อาจเกิดจากอายุที่มากขึ้น การใช้สายตามากเกินไป หรือโรคทางระบบประสาทบางอย่าง เช่น Myasthenia Gravis
ภาวะจากอาการนี้อาจส่งผลต่อการมองเห็นและบุคลิกภาพ หากปล่อยไว้อาจทำให้เกิดปัญหาการมองเห็นผิดปกติ หรือในเด็กเล็กอาจรบกวนพัฒนาการของการมองเห็นได้ ดังนั้นคำปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อได้รับการดูแลที่ถูกต้อง
สาเหตุหลักของอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
- ภาวะเสื่อมตามอายุ เมื่ออายุมากขึ้น กล้ามเนื้อ Levator อาจสูญเสียความแข็งแรง
- โรคทางระบบประสาท เช่น Myasthenia Gravis ซึ่งเป็นโรคเกี่ยวกับความผิดปกติของการส่งสัญญาณประสาทไปยังกล้ามเนื้อ
- การบาดเจ็บที่ดวงตา เช่น การผ่าตัดตาหรืออุบัติเหตุที่กระทบต่อกล้ามเนื้อตา
- การใช้สายตามากเกินไป การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์และมือถือเป็นเวลานาน อาจทำให้กล้ามเนื้อตาล้าและอ่อนแรง
- การใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานาน การถอดเข้า-ออกคอนแทคเลนส์บ่อย ๆ อาจทำให้เอ็นที่ยึดกล้ามเนื้อ Levator ยืดตัว ⁽³⁾
ภาวะกล้ามตาอ่อนแรงมีความรุนแรงกี่ระดับ?
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (Ptosis) สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับตามความรุนแรง ซึ่งขึ้นอยู่กับการตกลงของเปลือกตา และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับการมองเห็นของผู้ป่วย โดยการประเมินระดับความรุนแรงนี้จำเป็นต้องใช้การประเมินภายใต้จักษุแพทย์อย่างละเอียด
- ระดับเล็กน้อย (Mild Ptosis) ในระดับนี้ เปลือกตาตกลงมาน้อยมาก บางครั้งอาจมองไม่เห็นความผิดปกติเมื่อมองจากภายนอก แต่จะมีอาการเล็กน้อย เช่น การรู้สึกเหนื่อยล้าหรือเคืองตาเมื่อใช้งานมากๆ ผู้ป่วยในระดับนี้มักจะไม่มีผลกระทบต่อการมองเห็นชัดเจน แต่ในบางกรณีอาจต้องการการรักษาเพื่อป้องกันไม่ให้อาการทวีความรุนแรงขึ้น
- ระดับปานกลาง (Moderate Ptosis) เปลือกตาตกลงมามากพอสมควรจนเริ่มบังส่วนหนึ่งของรูม่านตา ผู้ป่วยอาจต้องเงยหน้าหรือยกคิ้วขึ้นเพื่อมองเห็นอย่างชัดเจน อาการนี้อาจส่งผลต่อการมองเห็นและบุคลิกภาพอย่างมีนัยสำคัญ การรักษาจึงมักจะจำเป็นเพื่อปรับเปลือกตากลับสู่ตำแหน่งที่เหมาะสม
- ระดับรุนแรง (Severe Ptosis) ในกรณีที่เปลือกตาตกลงมามากจนเกือบหรือปิดบังรูม่านตาทั้งหมด การมองเห็นจะถูกบล็อกอย่างรุนแรง การมองเห็นจะต้องใช้การพยายามที่มากขึ้นในการเงยหน้าหรือเปิดตาให้กว้างขึ้น โดยไม่สามารถมองเห็นได้ตามปกติ ผู้ป่วยในกรณีนี้มักจะต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อยกกล้ามเนื้อที่อ่อนแรงและแก้ไขความผิดปกติที่เกิดขึ้น
การประเมินระดับความรุนแรงของกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจะช่วยในการวางแผนการรักษาที่เหมาะสม หากอาการอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง อาจใช้วิธีการรักษาแบบไม่ต้องผ่าตัด เช่น การทำกายภาพบำบัด หรือใช้เครื่องมือช่วยเสริม ในขณะที่อาการในระดับปานกลางหรือรุนแรงจะต้องการการผ่าตัดเพื่อฟื้นฟูการทำงานของกล้ามเนื้อ Levator ให้กลับมาเป็นปกติ
ดังนั้น การเข้าใจระดับของภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงและการได้รับการรักษาที่เหมาะสมตั้งแต่ระยะแรก จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว และทำให้ผู้ป่วยกลับมามีการมองเห็นที่ดีขึ้นตามปกติ
การทำตาสองชั้นสามารถร่วมกับแก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ไหม?
การแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ไม่ได้เป็นเพียงการยกเปลือกตาขึ้น แต่ยังเป็นการปรับสมดุลของกล้ามเนื้อตาให้ทำงานได้ปกติ หลายคนที่เข้ารับการผ่าตัดมักมีความกังวลว่าชั้นตาจะเปลี่ยนไปหรือไม่ ความจริงแล้ว ชั้นตาอาจดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น เพราะเราแก้ที่ต้นเหตุของปัญหา การศัลยกรรมแก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงมีเป้าหมายเพื่อ คืนความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ Levator ซึ่งช่วยให้เปลือกตาทำงานได้ปกติ แต่ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นคือ ความไม่สมดุลของชั้นตาในช่วงแรก ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากกล้ามเนื้อยังต้องใช้เวลาปรับตัว ในกรณีที่อาการไม่รุนแรงมาก เราอาจใช้วิธีเย็บกล้ามเนื้อเพิ่มความกระชับโดยไม่ต้องตัดแต่งชั้นตา แต่ถ้ากล้ามเนื้ออ่อนแรงมาก เราอาจต้องใช้เทคนิคพิเศษในการดึงกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ชั้นตาสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงแรก แต่เมื่อหายดีแล้ว ชั้นตาจะเข้าที่และดูเป็นธรรมชาติ หากผู้เข้ารับบริการเคยทำตาสองชั้นมาก่อน (แต่ยังมีปัญหาเปลือกตาตกอยู่) การแก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงสามารถทำร่วมกับการปรับแต่งชั้นตาให้เหมาะสมได้ โดยจักษุแพทย์จะต้องออกแบบให้รับกับโครงสร้างดวงตาเดิมของเคส สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดคือ การทำตาสองชั้นสามารถช่วยแก้ไขภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ ซึ่งจริง ๆ แล้ว ถ้าไม่ได้แก้ที่กล้ามเนื้อโดยตรง เปลือกตาก็จะยังตกเหมือนเดิม แม้จะมีชั้นตาสวยขึ้น
ดังนั้น หากต้องการให้ดวงตากลับมาสวยงาม ดูสดใส และมีชั้นตาที่เป็นธรรมชาติ ควรเข้ารับคำปรึกษาจากจักษุแพทย์ที่มีความชำนาญการด้านนี้โดยเฉพาะ เพื่อวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับโครงสร้างตาของแต่ละบุคคล
แก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงมีผลกระทบต่อชั้นตาไหม?
หากทำการแก้ไขโดยจักษุแพทย์ที่มีความชำนาญด้านการผ่าตัดตกแต่งก็จะสามารถทำให้ชั้นตาจะกลับมาเป็นปกติ หรืออาจดูดีขึ้นกว่าเดิมได้ อย่างไรก็ตาม ช่วงแรกหลังผ่าตัดอาจมีอาการบวมและรอยช้ำ ซึ่งจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์
FAQ คำถามพบบ่อยจากเคสจริงที่โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC
Q1: การแก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงต้องพักฟื้นนานไหม?
A: ส่วนใหญ่ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ อาการบวมจะลดลงภายใน 1 เดือน
Q2: ผ่าตัดแล้วอาการจะกลับมาอีกไหม?
A: ในกรณีของผู้สูงอายุหากเกิดจากภาวะเสื่อมตามอายุอาจต้องติดตามผลในระยะยาว และในกรณีของวัยรุ่นมักไม่ค่อนต้องกลับมาผ่าตัดซ้ำหากดูแลตามคำแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด
Q3: มีวิธีอื่นที่ไม่ต้องผ่าตัดไหม?
A: หากเป็นระดับเล็กน้อย อาจใช้เทคนิค โปรแกรม Thermage หรือ โปรแกรม Botox ช่วยกระชับกล้ามเนื้อได้ซึ่งต้องอยู่ภายใต้ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการเรื่องนี้ แต่ถ้ารุนแรงแนะนำให้ผ่าตัด
Tips: “อาการตาปรือหรือตาตกที่ลืมตาไม่ค่อยขึ้น อาจเป็นสัญญาณเตือนถึงการทำงานผิดปกติของกล้ามเนื้อตา การปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อการประเมินวิธีการรักษาที่เหมาะสม ซึ่งแน่นอนว่าการทำตาสองชั้นสามารถทำร่วมกับการแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเช่นเดียวกัน เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีและยั่งยืน” นพ. นพ. ณัฐพล โภคาวัฒนา (หมอเต้) ว 35810
เผยชั้นตาสวยดั่งใจ ไร้อาการตาปรือ ตาหอยแครง
หากคุณมีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง อย่าปล่อยทิ้งไว้นาน เพราะอาจส่งผลต่อการมองเห็นและบุคลิกภาพ การรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสมสามารถช่วยให้ชั้นตากลับมาเป็นปกติ และทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้นได้ ปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่ดีที่สุด Click! และอย่าลืมดูแลสุขภาพดวงตาของคุณให้ดีอยู่เสมอ!
เอกสารอ้างอิง
-
Babar Shahzad; Marco A. Siccardi. StatPearls [Internet]. (August 8, 2023). Ptosis. [PubMed]
-
Kirthi Koka; Bhupendra C. Patel StatPearls [Internet] (July 10, 2023). Ptosis Correction. [PubMed]
-
Nicholas Satariano , Matthew S Brown , Samantha Zwiebel , Bahman Guyuron. Aesthetic Surgery Journal, Volume 35, Issue 3, Pages 235–241. Environmental factors that contribute to upper eyelid ptosis: a study of identical twins (March/April 2015). https://doi.org/10.1093/asj/sju070
-
Peixuan Wu, Jing Ma, Tianyu Zhang and Duan Ma Ophthalmic Res 65 (2): 131–139. Advances in the Genetics of Congenital Ptosis (2022). https://doi.org/10.1159/000521575
-
Koka K, Patel BC. StatPearls [Internet]. StatPearls Publishing; Treasure Island (FL): Jul 10, 2023. Ptosis Correction. [PubMed]
โปรโมชัน
สัมผัสประสบการณ์ศัลยกรรมมาตรฐานระดับสากลกับทีมศัลย์แพทย์ผู้มีประสบการณ์ พร้อมดีไซน์ความงามเฉพาะคุณในแบบ SLC กับโปรโมชันสุดคุ้ม คลิก ดูตอนนี้เพื่อรับสิทธิ์
รีวิวผลงาน
เพราะเราตระหนักดีว่าการทำศัลยกรรมเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องการความประณีตสูง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย จนสามารถสร้างชื่อเสียงระดับประเทศและเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนในการแสดงศักยภาพที่สามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าประทับใจและเชื่อถือได้