- ศัลยกรรมใบหน้า
- ศัลยกรรมหน้าอก
- ศัลยกรรมดูดไขมัน
- ศัลยกรรมเติมไขมัน
- ศัลยกรรมตกแต่งรูปร่าง
- ศัลยกรรมอื่น ๆ
Sorry, no pages was found
หน้าผากแบน หน้าผากสั้นแคบ หน้าผากบุ๋ม หน้าผากไม่เรียบทำให้รวบผมไม่สวย ถือเป็นปัญหาคาใจของผู้หญิงหลายคน เพราะหน้าผากที่ขาดความโหนกนูนทำให้ใบหน้าไม่มีมิติ หน้าดูสั้นไม่ได้สัดส่วนจนทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัยกันเลยทีเดียว ถึงแม้ปัญหาเหล่านี้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราขาดความมั่นใจจนไม่อยากรวบผม ผู้หญิงหลายคนจึงเลือกหาทางออกด้วยการ เสริมหน้าผาก เพื่อให้หน้าผากโหนกโค้งนูนรับกับใบหน้ามากยิ่งขึ้น ทว่าในปัจจุบันการทำ ศัลยกรรมเสริมหน้าผาก มีให้เลือกหลายเทคนิคทั้งการเสริมหน้าผากด้วย ซิลิโคนเสริมหน้าผาก หรือการใช้สารเติมเต็มด้วยไขมันจากร่างกายหรือสารเติมเต็มฟิลเลอร์มาใช้สำหรับ ฉีดหน้าผาก ทีนี้เราควรเลือกเทคนิคไหนดีให้หน้าผากสวยถูกใจ ไม่ต้องแก้ วันนี้มาดูกันเลยค่ะ ว่าการเสริมหน้าผากแต่ละเทคนิคต่างกันอย่างไร แล้วเราควรเลือกศัลยกรรมเสริมหน้าผากแบบไหน? ให้เข้ากับใบหน้าของเรามากที่สุด
การเสริมหน้าผากอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละรูปหน้าของแต่ละบุคคลรวมถึงความต้องการของผู้รับบริการ โดยในปัจจุบันการเสริมหน้าผากที่นิยมกันในทางการแพทย์หลักๆ จะมีด้วยกันอยู่ 3 เทคนิค ก็คือ การเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคนทางการแพทย์, การเสริมหน้าผากด้วยการปลูกถ่ายไขมันจากร่างกาย และการเสริมหน้าผากด้วยการฉีดสารเต็มเติมฟิลเลอร์ ซึ่งการเสริมหน้าผากแต่ละเทคนิคจะมีความแตกต่างกันอย่างไรรวมถึงมีข้อจำกัดอะไรบ้างนั้น เรามาเริ่มเจาะลึกกันที่เทคนิคยอดนิยมที่ถูกเลือกเป็นอันดับต้นๆ อย่างการเสริมหน้าผากซิลิโคนกันค่ะ
“จบหน้าผากแคบ หน้าผากแบน เผยหน้าผากโค้งนูนดูเอิบอิ่มได้สัดส่วนงดงาม”
ปัจจุบันซิลิโคนทางการแพทย์สำหรับเสริมหน้าผาก ออกแบบให้มีความโค้งโหนกนูนของหน้าผากเลือกได้ตามความต้องการ ราคาถูก ให้ผลลัพธ์คงทนถาวรกว่าเทคนิคอื่นๆ ดูเป็นธรรมชาติ ตอบโจทย์คนที่ไม่ต้องการฉีดฟิลเลอร์หรือปลูกถ่ายไขมัน
ที่โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC. มีซิลิโคนเสริมหน้าผากให้เลือก ถึง 3 แบบ ตามความเหมาะสมและความต้องการของผู้รับบริการ ได้แก่
ซึ่งแต่ละแบบมีจุดเด่นและแตกต่างกันอย่างไร ซิลิโคนแบบไหนใช่แบบที่คุณต้องการ เรามาดูข้อแตกต่างของซิลิโคนเสริมหน้าผากแต่ละแบบกันเลยค่ะ
ซิลิโคนเสริมหน้าผากสำเร็จรูป (Preformed Silicone) เป็นซิลิโคนสำเร็จรูปที่ได้รับการหล่อขึ้นรูปไว้เเล้วตามมาตรฐานทางการแพทย์ ซึ่งมี 3 ขนาด S M L ให้เลือกตามสรีระใบหน้า มีความกว้าง ยาวแตกต่างกัน สามารถเลือกความโค้งนูนได้ตามความต้องการ โดยก่อนเสริมซิลิโคนหน้าผากศัลยเเพทย์จะทำการวิเคราะห์ขนาดซิลิโคนที่ใกล้เคียงกับฐานหน้าผากเดิม ร่วมกับการใช้เทคนิคพิเศษตกเเต่งซิลิโคนเพื่อให้เหมาะสมกับสรีระใบหน้าของเเต่ละบุคคล เนื่องจากลักษณะของซิลิโคนถูกผลิตขึ้นเเบบสำเร็จรูป ซึ่งคิดตามค่าเฉลี่ยจากบุคคลส่วนมาก ทำให้ขนาดของซิลิโคนถูกจำกัด และไม่รองรับกับคนที่มีหน้าผากสูงหรือและคนที่มีหน้าผากกว้างกว่าปกติ
ซิลิโคนเสริมหน้าผากสเปค SLC-Signature เป็นซิลิโคนที่แตกต่างจากซิลิโคนสำเร็จรูปทั่วไป โดยดีไซน์ของซิลิโคนสเปค SLC-Signature ถูกพัฒนาและออกแบบให้มี Spec พิเศษแบบ Special Type เพื่อรองรับการเสริมโครงหน้าผากเฉพาะบุคคล ที่หน้าผากมีความกว้าง สูง ต่ำ แคบ และสัดส่วนใบหน้าที่มีความจำเพาะ ตอบโจทย์ทุกสรีระใบหน้า รองรับโครงหน้าของคนเอเชียได้เป็นอย่างดีโดยไม่ต้องทำ CT Scan เพื่อหล่อซิลิโคนขึ้นมาใหม่ ซึ่งเกินความจำเป็นในกรณีที่หน้าผากไม่ได้มีความตะปุ่มตะป่ำหรือยุบผิดรูป
ซิลิโคนเสริมหน้าผากเเบบหล่อ CT-SCAN (3D Customized Silicone Implant) เทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดด้วย CT-SCAN สามารถในการวิเคราะห์และตรวจสอบโครงสร้างใบหน้าได้อย่างถูกต้องเเม่นยำ ซึ่งซิลิโคนเสริมหน้าผากจะถูกออกเเบบมาจากโครงสร้างกระดูกและพื้นผิวหน้าผากโดยตรงของบุคคลนั้น สามารถรับกับใบหน้าได้ทุกรูปเเบบ และกำหนดความโค้งนูนของซิลิโคนได้ตามความต้องการ และตามความเหมาะสมกับใบหน้าของแต่ละบุคคล
ทั้งนี้การเสริมหน้าผาก เพื่อให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ และมีสัดส่วนงดงาม มีความโค้งโหนกนูนรับกับสรีระใบหน้า ผู้รับบริการจะเลือกเทคนิคไหนนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคลร่วมกับการประเมินของศัลยแพทย์
การปลูกถ่ายไขมัน หรือ Fat Transfer คือการ “ดูดไขมันส่วนเกิน” จากที่หนึ่งไปเติมเต็มยังจุดอื่นๆ เช่น หน้าผาก ขมับ ใต้ตา ร่องแก้ม รวมถึงเติมเต็มรอยแผลเป็นที่ยุบเป็นหลุม โดยการดูดไขมันส่วนเกินเพื่อนำไปปลูกถ่ายบริเวณอื่นนั้นมีหลักการคล้ายการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ ซึ่งศัลยแพทย์จะทำการดูดไขมันส่วนเกินอย่างนุ่มนวลโดยไม่ใช้ความร้อน เพื่อให้ได้เซลล์ไขมันดีที่แข็งแรงและมีชีวิต และนำมาคัดแยกเฉพาะเซลล์ไขมันที่ดีที่สุด สำหรับนำไปปลูกถ่ายยังจุดอื่นๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
บริเวณที่มีไขมันส่วนเกิน
ศัลยแพทย์มักจะเลือกไขมันที่สะสมบริเวณหน้าท้อง ต้นขา ก้นหรือสะโพก มาใช้สำหรับการปลูกถ่ายไขมันสเต็มเซลล์ เพราะเป็นจุดที่มีไขมันส่วนเกินสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับศัลยแพทย์ประเมิน
ไขมันที่ถูกดูดออกมาจะถูกนำไปปั่นแยกเลือดและน้ำเหลืองออกเพื่อคัดเซลล์ไขมันออกมาเท่านั้น ซึ่งเซลล์ไขมันที่ได้จะมีส่วนผสมของสเต็มเซลล์ สำหรับนำไปเตรียมฉีดบริเวณที่ต้องการเติมเต็ม
เซลล์ไขมันที่ดีที่สุด อุดมไปด้วยสเต็มเซลล์พร้อมที่จะนำไปปลูกถ่ายในจุดที่เหมาะสมแล้ว
ปืน Maft Gun อุปกรณ์เซฟชีวิตสเต็มเซลล์ไขมัน ช่วยให้การปลูกถ่ายไขมันดีขึ้น เติมเต็มไขมันลึกระดับเซลล์ ช่วยเพิ่มอัตราการติดของสเต็มเซลล์ไขมันมากกว่า 80% ได้อณูไขมันเล็กละเอียดถึง 3 ระดับ สเต็มเซลล์ไขมันกระจายตัวได้สม่ำเสมอในขนาดโมเลกุลที่เท่ากัน ทำให้ไขมันติดดีขึ้น สามารถเติมเต็มได้แม้จุดบอบบางอย่างใต้ตา
Fat Transfer หรือ ฉีดหน้าผาก ด้วยการปลูกถ่ายไขมันสเต็มเซลล์ เป็นเทคนิคที่มีความปลอดภัยสูง เพราะเป็นไขมันจากร่างกายจึงไม่เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย นอกจากนี้ไขมันที่ปลูกถ่ายไปสามารถอยู่ในชั้นใต้ผิวได้ตลอด ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง และบริเวณที่ทำ ทั้งนี้การปลูกถ่ายไขมัน เพื่อปรับรูปหน้าให้สวยงามและปลอดภัยนั้นจะต้องทำโดยศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
สเต็มไขมันที่เหลือจากการปลูกถ่ายไขมันสามารถเก็บได้ถึง 1 ปี โดยสเต็มเซลล์ไขมันจะถูกเก็บรักษาอย่างดีภายใต้มาตรฐานห้องแล็บเพื่อคงคุณภาพของไขมันสเต็มเซลล์
การเสริมหน้าผากด้วยฟิลเลอร์คือการใช้สารเติมเต็มประเภทหนึ่ง ก็คือสารที่ชื่อว่า “ไฮยาลูโรนิค” หรือ Hyaluronic Acid ฉีดเข้าไปเติมเต็มบริเวณหน้าผาก เพื่อให้หน้าผากโหนกนูนได้สัดส่วนรับกับใบหน้า โดยบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์นั้นจะอยู่ในชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนังขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์ ซึ่งสารฟิลเลอร์นั้นสามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติภายใน 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่ใช้ แต่การฉีดฟิลเลอร์ให้สวยงามและปลอดภัยจะต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น หากทำโดยผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ค่ะ