สำหรับผู้ที่มีปัญหา คางสั้น คางบุ๋ม คางทู่ หน้ากลม ทำให้โครงหน้าผิดรูปไม่สวยงาม วิธีแก้ไขปัญหา คือ ศัลยกรรมเสริมคาง ใส่ซิลิโคนทางการแพทย์ โดยเลือกรูปทรงให้รับกับใบหน้าของคนไข้แต่ละท่าน โดยซิลิโคนที่ใช้นั้นเป็นชนิดนิ่มพิเศษ และหลาย ๆ คนมักสงสัยว่า ทำคางเจ็บไหม ทำคางที่ไหนดี ที่โรงพยาบาล SLC สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด และทำให้ดูเป็นธรรมชาติ ประกอบกับเทคนิคพิเศษของศัลยแพทย์ที่วางตำแหน่งซิลิโคนให้ดูเนียนที่สุดเพื่อให้ผลที่ได้คือใบหน้าที่ได้รูปสวยอย่างเป็นธรรมชาติ โดยศัลยแพทย์จะมีเทคนิคเปิดแผล 2 แบบ คือ แผลนอก และแผลใน ซึ่งการเปิดแผลนอกนั้น ศัลยแพทย์จะเปิดแผลบริเวณใต้คางประมาน 1-1.5 เซนติเมตร ส่วนการเปิดแผลใน ศัลยแพทย์จะเปิดแผลภายในช่องปากระหว่างริมฝีปากกับเหงือกด้านล่าง เพื่อเปิดเป็นช่องสำหรับซิลิโคน ซึ่งจะทำให้มองไม่เห็นบาดแผล ซึ่งการ เสริมคาง เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่อยาก ฉีดคาง และต้องการความถาวร ทำคางที่ไหนดี
ซิลิโคนที่ใช้ในการ เสริมคาง
1.ซิลิโคนขาสั้น
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องเน้นเฉพาะบริเวณปลายคางให้ยาวขึ้น และมีพื้นฐานโครงสร้างคางค่อนข้างดีเป็นทุนเดิม และต้องการปรับสัดส่วนบนใบหน้าให้สมบูรณ์มากขึ้น ใบหน้าดูเรียวยาว ได้รูปขึ้น
2.ซิลิโคนขายาว
จะมีขาวางโค้งครอบไปบนกระดูกปลายคางเพื่อให้ซิลิโคนอยู่ในองศาเดียวกับกรอบหน้าพอดี ทำให้ไม่เป็นรอยต่อเกิดขึ้นระหว่างแก้มและคาง ตัวขาซิลิโคน จะช่วยล็อคไว้ ไม่ให้ห้อยย้อยตกลงมาใต้คาง ครอบล็อคกระดูกคาง ป้องกันคางเบี้ยวเอียง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหา หน้ากลม คางสั้น คางบุ๋ม คางถอย คางเหลี่ยม ตัวซิลิโคนจึงต้อง ครอบคลุมถึงรอยต่อแนวกราม รับกับกรอบหน้า ทำให้รูปหน้าได้สัดส่วนมากขึ้น
ประเภทของซิลิโคนที่เลือกใช้ ก็มีส่วนทำให้คางเข้ากับรูปหน้ามากขึ้นได้ด้วย หากเลือกชนิดที่เหมาะสมจะช่วยให้รูปหน้าได้สัดส่วนที่ดี มีมิติ ดูเรียว ดูสวย อย่างสมบูรณ์แบบ และประเภทของซิลิโคนเสริมคาง ที่โรงพยาบาล SLC คือ
ซิลิโคนเกาหลี Premium
จุดเด่นของซิลิโคนประเภทนี้คือ ความนิ่ม และความยืดหยุ่น ทำการเปิดขนาดแผลขนาดเล็ก เนื่องจากซิลิโคนความยืดหยุ่นที่สูง เสริมออกมาแล้ว จะช่วยทำให้คางดูรับกับใบหน้า และให้ความเป็นธรรมชาติมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับเนื้อคางของแต่ละเคสด้วย ทั้งนี้ การตัดสินใจเลือกใช้ซิลิโคนเพื่อแก้ไขปัญหาให้เข้ากับรูปหน้า ขึ้นอยู่กับแพทย์ประเมิน เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาทำให้รูปหน้าได้สัดส่วนที่ดี มีมิติ ดูเรียว ดูสวย เป็นธรรมชาติ
เสริมคาง แผลนอก และ แผลใน ต่างกันอย่างไร?
1.การเสริมคางแผลนอก
ขั้นตอนการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคางแผลนอก คุณหมอจะทำการเปิดแผลบริเวณใต้คาง เฉลี่ยอยู่ที่ 1-1.5 เซนติเมตร เพื่อเข้าไปวางตำแหน่งซิลิโคนเฉียงลงล่างให้ดูหน้าเรียวขึ้นและแก้ไขรูปคางตามโครงหน้าของคนไข้ การผ่าตัดจะทำร่วมกับการฉีดยาชา ใช้เวลาผ่าตัด ประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ขึ้นอยู่ที่ความยากง่ายของเคส และทำการตัดไหม 7 วันหลังทำ
ข้อดีของการเสริมคางแผลนอก
- ลดความเสี่ยงการติดเชื้อจากเศษอาหารและน้ำลายในช่องปาก
- สามารถวางตำแหน่งซิลิโคนได้ง่ายและแม่นยำ
- แผลมีขนาดเล็กการดูแลจึงง่ายต่อการรักษาและแผลหายเร็ว
- คุณหมอจะเย็บล็อคซิลิโคน ป้องกันการเบี้ยวเอียงได้
- ใช้เลเซอร์ร่วมกับการผ่าตัดทุกเคส ช่วยห้ามเลือด ลดอาการบวมช้ำ
- ถ้าต้องขูดฟิลเลอร์ ควรใช้เทคนิคแก้คางแผลนอก ขูดสารเหลวได้เกลี้ยงกว่า
- เคสที่เนื้อคางห้อยย้อย สามารถตกแต่งผิวหนังส่วนเกินใต้คางได้
ข้อควรระวัง
- อาจไม่เหมาะกับคนที่มีเกิดรอยแผลเป็นได้ง่าย ดังนั้นในบางเคสอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นได้ แต่หากทำการดูแลรักษาอย่างดีทาครีมลดรอยแผลเป็นอย่างสม่ำเสมอ รอยแผลเป็นก็อาจหายได้ โดยเฉลี่ยต้องใช้ระยะนานพอสมควร ประมาณ 1-3 เดือน
2.การเสริมคางแผลใน
ขั้นตอนการผ่าตัดศัลยกรรมเสริมคางแผลใน คุณหมอจะทำการเปิดแผลด้านในช่องปาก ตรงบริเวณเหงือกด้านในกับริมฝีปากล่าง ให้มีความยาวประมาณ 2 เซนติเมตรหรือขึ้นอยู่กับขนาดซิลิโคน จากนั้นศัลยแพทย์จะผ่าแยกเยื่อหุ้มบริเวณขอบล่างของคางออก แล้วจึงวางแท่งซิลิโคนเข้าไปให้พอดีกับตำแหน่งที่ต้องการ หลังจากนั้นก็เย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย
ข้อดีของการเสริมคางแผลใน
- ไม่ทำให้เห็นแผลเป็นภายนอกที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัดเหมาะกับคนที่มีแผลเป็นนูนง่าย
ข้อควรระวัง
- การดูแลทำความสะอาดเพื่อลดภาวะติดเชื้อหรือภาวะแทรกซ้อนจึงเป็นสิ่งสำคัญ
- ระมัดระวังเรื่องของเศษอาหารตกค้างในช่องปาก
- ระมัดระวังไม่ให้คางกระแทกจนซิลิโคนเคลื่อนผิดตำแหน่ง
- ห้ามทานอาหารรสจัดในช่วงแรก
ศัลยกรรมเสริมคาง เหมาะกับใครบ้าง ?
- เหมาะสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ที่มีปัญหาใบหน้าสั้น หน้ากลม คางสั้น คางบุ๋ม คางถอย คางตัด ต้องการแก้ไขปัญหาคางให้สวยขึ้น และปรับรูปหน้าให้ยาวขึ้น
- เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ได้วีเชฟ นอกจากนี้การ เสริมคาง ยังเป็นการส่งเสริมบุคลิกภาพได้อีกทางหนึ่งด้วย เพราะจะช่วยทำให้ใบหน้าดูมีมิติมากขึ้น
- สำหรับผู้ชายส่วนใหญ่ นิยม ทำคาง ให้ป้านขึ้น เหลี่ยมขึ้น เพื่อให้ดูแมน ไม่นิยมทำแหลมเกินไป อาจจะทำให้ใบหน้าดูหวาน ซึ่งต่างจากการ ทำคาง ผู้หญิง ที่นิยมทำให้ใบหน้าดูเรียว ยาวขึ้น หน้าดูหวานละมุน
ทำคางที่ไหนดี ทำไมต้องเลือกที่โรงพยาบาล SLC
- ศัลยแพทย์เฉพาะทาง เชี่ยวชาญด้านการทำศัลยกรรมใบหน้า ประเมินและออกแบบเฉพาะบุคคล
- โรงพยาบาลศัลยกรรมมาตรฐาน Boutique Hospital ของไทย
- เทคโนโลยีห้องผ่าตัดทันสมัย
- Personal Patient Advisor ผู้ดูแลให้คำปรึกษาส่วนตัวด้านศัลยกรรม
- การบริการเป็นเลิศ ดูแลและติดตามผลหลังศัลยกรรม
- ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า SLC และเป็นที่ยอมรับในกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดเสริมคาง
- แนะนำว่าควรแจ้งข้อมูลทางด้านสุขภาพ เช่น มีโรคประจำตัวอะไรบ้าง มีประวัติแพ้ยาหรือไม่
- งดสูบบุหรี่ และแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
- งด ยาตระกูล แอสไพริน วิตามิน อาหารเสริม เช่นน้ำมันตับปลา ก่อนผ่าตัด อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- เตรียมรูปทรงคาง ตัวอย่างที่อยากได้ มาปรึกษาคุณหมอก่อนเข้าห้องผ่าตัด เพื่อประเมินรูปทรง
- ควรทำความสะอาดร่างกายก่อนเข้ารับการผ่าตัด เช่น ล้างหน้า แปรงฟัน และบ้วนปากให้เรียบร้อย
- ทานอาหารให้พออิ่มก่อนเข้าห้องผ่าตัด ไม่ต้องงดน้ำ งดอาหาร
- ไม่ควรเสริมเสื้อผ้าที่มีโลหะนำไฟฟ้า ควรสวมเสื้อผ้าที่เป็นกระดุมหน้าเพื่อความสะดวกต่อการสวมใส่หลังผ่าตัด
ขั้นตอนการทำศัลยกรรม
- คนไข้มาถึงทำประวัติกับทางคลินิก ตรวจวัดความดัน ทานยาแก้ปวดและยาฆ่าเชื้อ
- ปรึกษาเรื่องรูปทรงกับคุณหมอ ทรงที่นิยมจะนิยมทำ ทรงวีมน ไม่แหลมจนเกินไป
- คุณหมอมาร์คจุดก่อน ทำคาง ไว้ เป็นเครื่องหมายก่อนการผ่าตัด
- เข้าห้องผ่าตัด ฉีดยาชา บริเวณคาง รอยาชาออกฤทธิ์ประมาณ 10-15 นาที
- คุณหมอผ่าตัด เปิดแผลประมาณ 1-3 ซม. ขึ้นอยู่กับขนาดซิลิโคน
- คุณหมอนำซิลิโคนมาปรับเหลาเคสบายเคสเพื่อให้เข้ากับรูปหน้า
- ดูรูปทรงก่อนเย็บปิดแผล
- ดามเฝือกคางไว้
- คนไข้สามารถกลับบ้านพักฟื้นได้
ระยะเวลาในการรับบริการ
- ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง
การดูแลผ่าตัดเสริมคาง
- ในช่วง 3 วันหลังผ่าตัด แนะนำให้ประคบเย็น เพื่อลดความเจ็บปวดและป้องกันการบวม
- แนะนำในช่วง 1 อาทิตย์แรก ควรทำความสะอาดแผลทุกวันเพื่อป้องกันการสะสมของเศษอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดการติดเชื่อ และอักเสบ
- ในช่วงวันที่ 4 – 6 หลังผ่าตัด แนะนำให้ประคบอุ่น ตามคำแนะนำของแพทย์
- นอนศีรษะสูง และห้ามนอนตะแคงหรือนอนคว่ำ เพราะเนื่องจากอาจไปกดทับบริเวณคางที่ยังอักเสบอยู่
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบอย่างเคร่งครัด
- ขณะรับประทานอาหารในช่วง 1 อาทิตย์แรก แนะนำให้ทานอาหารอ่อน เพื่อป้องกันเศษอาหารตกลงไปในบริเวณแผล
- มาตามนัดที่ได้รับ ห้ามแกะพลาสเตอร์ หรือตัดไหมออกเองก่อนกำหนด
- ทำความสะอาดใบหน้าด้วยผ้าเปียก เช็ดหรือทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวแทนการล้างหน้า
- อาการบวมเขียวช้ำอาจมีขึ้นได้หลังผ่าตัด โดยเฉพาะในช่วง 1-2 อาทิตย์แรก และจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ใน 3-4 เดือน เนื้อเยื่อจะกลับมาใกล้เคียงปกติ บางรายอาจต้องใช้เวลานาน 6 เดือน ถึง 1 ปี
- หลีกเลี่ยงการก้มหน้า เช่น นั่งอ่านหนังสือ เล่นคอม ยกของหนัก ส่ายหน้าหรือเอียงหน้าแรง ๆ โดยเฉพาะ 2 อาทิตย์แรก
- หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา และสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงการทานอาหารทะเล ของหมักของดอง อาหารรสจัด และอาหารที่คบเคี้ยวยากในช่วง 1 เดือนแรก
- สามารถออกกำลังกายหนักๆ เช่น วิ่ง หรือว่ายน้ำ ประมาณ 3 เดือนขึ้นไป
- หากมีความผิดปกติ สามารถเข้ามาปรึกษาทันที
Q&A คำถามที่พบเจอบ่อย
Q: ทำคางเจ็บไหม ?
A: การ เสริมคาง เป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก ที่ทำการผ่าตัดร่วมกับการฉีดยาชา ดังนั้น ความรู้สึกเจ็บ จะมีแค่ตอนฉีดยาชาเท่านั้น หลังยาชาออกฤทธิ์ ในระหว่างที่ผ่าตัด คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ แต่หลังยาชาหมดฤทธิ์ อาจจะมีอาการตึง หรือรู้เจ็บบ้างเล็กน้อย ซึ่งสามารถรับประทานยาแก่ปวดได้ รวมถึงมีการประคบเย็น เพื่อลดปวดและลดบวม หลังผ่าตัดเสร็จ สามารถเดินทางกลับบ้านพักฟื้นได้โดยไม่ต้องพักฟื้น
Q: เสริมคาง พักฟื้นนานแค่ไหน?
A: ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 7 วัน แต่สามารถไปไหนมาไหนได้ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยไม่กระทบกิจวัตรประจำวัน และหลังครบ 7 วัน จะนัดเข้ามาเพื่อเช็คแผล หรือตัดไหม และหลังจากที่ ศัลยกรรมเสริมคาง ไปแล้วจะเข้าที่ประมาณ 1-3 เดือน
Q: เสริมคาง มีแผลเป็นหรือไม่
A: แผลเป็นขึ้นกับบุคคล บางรายอาจจะมีสภาพผิวที่ส่งผลต่อการเกิดแผลคีรอยด์ได้ง่าย แต่สามารถเกิดขึ้นน้อยมาก ที่จะเห็นแผลเป็น เพราะขนาดของแผลมีขนาดเล็ก รอยแผลจะค่อย ๆ จางหายไปประมาณ 1-3 เดือน กรณีคนที่เป็นแผลเป็นง่าย การดูแลหลังทำ เป็นสิ่งสำคัญมาก ต้องหมั่นทายาอย่างสม่ำเสมอตามที่แพทย์สั่ง
Q : เสริมคางมีผลข้างเคียง อันตรายหรือไม่?
A: การตัดสินใจเลือกสถานที่ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไม่ใช่ที่ไหนก้ได้ ต้องศึกษาข้อมูลให้ดี รวมถึงคุณหมอที่มีประสบการณ์สูงและมีความเชี่ยวชาญ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน เครื่องมือผ่าตัดที่ทันสมัย ผ่านการฆ่าเชื้อทุกกระบวนการ เพราะโรงพยาบาลศัลยกรรม SLC ได้มาตรฐาน Boutique Hospital ของไทย จึงหมดกังวลเรื่องผลข้างเคียง และอันตรายไปได้เลย