วิธีดูดไขมัน

ถ้าจะพูดถึงศัลยกรรมดูดไขมัน ก็ต้องบอกเลยว่านี่เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเรื่องของการลดไขมันส่วนเกินในร่างกาย โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมในบริเวณที่กำจัดได้ยาก เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา เหนียง ฯลฯ และนอกจากศัลยกรรมดูดไขมัน ไม่เพียงแต่จะช่วยลดไขมันบริเวณที่ต้องการแล้ว ยังสามารถช่วยกระชับผิวหนังและปรับรูปทรงของร่างกายให้ดูสมส่วนมากขึ้นอีกด้วย 

แต่ทว่าต้องเลือกวิธีดูดไขมันแบบไหนถึงจะดี? วิธีดูดไขมันมีกี่แบบ? แต่ละแบบจะปลอดภัยมากน้อยเพียงใด วันนี้แอดจะพาทุกคนมาหาคำตอบเกี่ยวกับ วิธีดูดไขมัน ที่ถูกต้องและปลอดภัย ว่าต้องเลือกแบบไหนถึงจะดี แบบไหนถึงจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกัน

 

สารบัญบทความ

ดูดไขมัน 2024 กับ 6 เทคโนโลยีล้ำสมัย เลือกให้เหมาะกับความต้องการ

ศัลยกรรมดูดไขมัน นับว่าเป็นวิธีที่มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2024 นี้ก็ไม่ต่างกัน ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น 

ซึ่งสำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีดูดไขมันที่เหมาะสมกับตัวเอง วันนี้เราได้รวม 6 เทคโนโลยีเกี่ยวกับการดูดไขมันในแต่ละประเภทมาให้ทุกคนได้รู้จัก และไม่ว่าจะเป็นการดูดไขมันหน้าท้อง ต้นขา หรือต้นแขน ฯลฯ เทคโนโลยีแต่ละแบบมีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกันไป มาดูกันเลยว่าแต่ละแบบมีอะไรบ้างและจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดได้อย่างไร ดังนี้

1. ดูดไขมันแบบดั้งเดิม

การดูดไขมันแบบดั้งเดิม หรือ Conventional Liposuction เป็นเทคนิคการดูดไขมันที่ใช้มาอย่างยาวนาน ซึ่งจะอาศัยแรงดูดสุญญากาศและแรงมือของแพทย์ในการดูดไขมันออกมาโดยตรง โดยไม่ใช้เทคโนโลยีช่วย

หลักการทำงานของการดูดไขมันแบบดั้งเดิม

  • แพทย์จะทำการฉีดยาชาและยาที่ทำให้เส้นเลือดหดตัวเข้าไปในบริเวณที่ต้องการดูดไขมัน
  • แพทย์จะสอดท่อกลวงยาวเข้าไปใต้ผิวหนัง
  • ใช้แรงดูดสุญญากาศและแรงมือเพื่อดูดไขมันออกมา

ข้อดีของการดูดไขมันแบบดั้งเดิม

  • ประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆ

ข้อเสียของการดูดไขมันแบบดั้งเดิม

  • ใช้เวลานานในการผ่าตัด
  • แผลมีขนาดใหญ่
  • ผู้เข้ารับบริการอาจรู้สึกเจ็บปวดและบวมช้ำหลังการผ่าตัด
  • เสี่ยงต่อการเสียเลือดมาก
  • อาจเกิดรอยแผลเป็นหรือผิวไม่เรียบเนียนหลังการผ่าตัด
  • ต้องพักฟื้นนาน
  • เลือกใช้และคำนวณปริมาณยาชาไม่เหมาะสมกับคนไข้ อาจส่งผลให้เกิด ยาชาเป็นพิษ (over does)
  • คนไข้รู้สึกเจ็บระหว่างดูดไขมันเพราะแพทย์ฉีดยาชาไม่ลงลึกถึงชั้นผิวที่ทำการดูดไขมันและทำให้การดูดไขมันไม่ได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจ

2. ดูดไขมันด้วยพลังงานคลื่นวิทยุ BodyTite Pro

การดูดไขมันด้วยเทคโนโลยี BodyTite Pro เป็นวิธีการที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินและกระชับผิวไปพร้อมกัน โดยการดูดไขมันวิธีนี้ ยังเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกา ผ่านการรับรองจากทั้ง U.S. FDA และ อย.ไทย โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีคลื่นวิทยุ ช่วยให้ดูดไขมันได้รวดเร็ว พร้อมกระชับผิวในคราวเดียว

ข้อดีของการดูดไขมันด้วย BodyTite Pro

  • กระชับผิวพร้อมดูดไขมัน : ไม่ต้องกังวลเรื่องผิวหย่อนคล้อยหลังดูดไขมัน เพราะ BodyTite Pro ช่วยกระชับผิวไปพร้อมกัน
  • ผิวเรียบเนียน : ผลลัพธ์หลังดูดไขมัน ผิวเรียบเนียน ไม่มีรอยคลื่นหรือรอยบุ๋ม
  • ปลอดภัย : เทคโนโลยีได้รับการรับรองจากองค์กรที่เชื่อถือได้ มั่นใจได้ในความปลอดภัย
  • แผลเล็ก เจ็บน้อย : ฟื้นตัวเร็ว กลับบ้านได้ทันที
  • ควบคุมพลังงานความร้อน : มีระบบวัดพลังงานและความร้อน ป้องกันผิวไหม้

ข้อเสียของการดูดไขมันด้วย BodyTite Pro

  • ความเสี่ยงจากผิวไหม้ : หากแพทย์ผู้ทำไม่ชำนาญ อาจเกิดผิวไหม้จากพลังงานความร้อนได้

3. ดูดไขมันด้วยพลังงานน้ำ Body-jet

Body Jet เทคโนโลยีการดูดไขมันจากเยอรมนี โดดเด่นด้วยการใช้พลังงานน้ำ ดูดไขมันออกอย่างนุ่มนวล ไม่ทำร้ายเนื้อเยื่อใกล้เคียง ไขมันที่ดูดออกยังสามารถนำมาเติมเต็มส่วนอื่นได้อีกด้วย

ข้อดีของการดูดไขมันด้วย Body Jet

  • เก็บเซลล์ไขมันไว้ได้ : ไขมันที่ดูดออกยังมีชีวิต สามารถนำมาเติมเต็มร่องลึก ริ้วรอย เพิ่มความอวบอิ่มให้ใบหน้า หรือเสริมสะโพกได้
  • อ่อนโยน : ไม่ทำร้ายเนื้อเยื่อ ผิวหนังไม่บอบช้ำ ฟื้นตัวเร็ว
  • เรียบเนียน : ผิวเรียบตึง ไม่เป็นคลื่น
  • ปลอดภัย : เทคโนโลยีได้รับการรับรองจาก U.S. FDA และ อย. ไทย
  • แผลเล็ก : พักฟื้นเร็ว กลับบ้านได้ทันที

ข้อเสียของการดูดไขมันด้วย Body Jet

  • ใช้เวลานาน : เฉลี่ย 2 – 4 ชั่วโมงต่อเคส
  • เห็นผลช้า : ต้องรอประมาณ 1 สัปดาห์ ถึง 1 เดือน

4. ดูดไขมันด้วยพลังงานสั่นสะเทือน PAL

การดูดไขมันด้วย MicroAire PAL (Power Assisted Liposuction) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ระบบสั่นเพื่อช่วยในการดูดไขมัน ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ทำลายเซลล์ไขมัน โดยการใช้เทคโนโลยี PAL จะช่วยให้การดูดไขมันมีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถเข้าถึงบริเวณที่ยากต่อการดูดไขมัน และสามารถดูดไขมันออกได้ในปริมาณมาก ๆ ต่อครั้ง นอกจากนี้ การใช้ PAL ร่วมกับ BodyTite Pro ยังช่วยลดระยะเวลาการฟื้นตัวและลดความเจ็บปวดหลังการผ่าตัด เนื่องจากเทคโนโลยีเหล่านี้ทำให้การดูดไขมันมีความแม่นยำและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

ข้อดีของการดูดไขมันด้วย MicroAire PAL

  • สามารถดูดได้ปริมาณมาก ๆ โดยที่ไม่ทำให้เนื้อเยื่อบวมและบอบช้ำจากการเสียดสีของแท่งดูดไขมัน
  • เทคโนโลยีที่ใช้มีความปลอดภัยสูง ซึ่งได้รับการรับรองจาก U.S. FDA และ อย. ไทย
  • ช่วยให้การดูดไขมันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อใช้ร่วมกับการดูดไขมันประเภทอื่น ๆ

ข้อเสียของการดูดไขมันด้วย MicroAire PAL

  • ไม่เหมาะสำหรับการใช้เพียงเครื่องเดียว ควรใช้ร่วมกับเทคโนโลยีอื่น ๆ

5. ดูดไขมันด้วยพลังงานคลื่นเสียง Vaser Liposelection

ดูดไขมัน เทคนิค Vaser LipoSelection เป็นเทคโนโลยีการดูดไขมันที่ได้รับความนิยมและได้รับการรับรองจากทั้ง US FDA และ อย.ไทย มีความโดดเด่นในการใช้พลังงานคลื่นเสียง (Ultrasound) เพื่อสลายไขมันเฉพาะจุด ทำให้สามารถดูดไขมันออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้พลังงานคลื่นเสียงใน Vaser LipoSelection จะสามารถช่วยสลายไขมันได้เฉพาะจุด จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

หลักการทำงานของการดูดไขมันด้วยเทคนิค Vaser Liposelection 

  • ปล่อยพลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง ไปทำลายเฉพาะเซลล์ไขมัน
  • ก้อนไขมันกลายเป็นของเหลว แพทย์ดูดออกง่าย
  • ไม่ทำลายเนื้อเยื่อ เส้นเลือด หรือเซลล์ประสาทข้างเคียง
  • ลดรอยฟกช้ำ บวม ฟื้นตัวเร็ว

ข้อดีของการดูดไขมันด้วยเทคนิค Vaser Liposelection 

  • สลายไขมันเฉพาะจุด ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ผิวกระชับ เรียบเนียน
  • กำจัดเซลลูไลท์
  • ร่างกายฟื้นตัวเร็ว
  • ปลอดภัย ผลข้างเคียงน้อย
  • เห็นผลชัดเจน 1-2 วันหลังทำ

ข้อเสียของการดูดไขมันด้วยเทคนิค Vaser Liposelection 

  • ราคาสูงกว่าการดูดไขมันแบบอื่น

วิธีดูดไขมัน ด้วยเทคนิค Vaser Liposelection เหมาะกับใคร

  • ผู้ต้องการดูดไขมันเฉพาะจุด
  • ต้องการผิวกระชับ เรียบเนียน
  • ต้องการกำจัดเซลลูไลท์
  • ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว ปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม วิธีดูดไขมัน ด้วยเทคนิค Vaser Liposelection อาจไม่เหมาะสำหรับ

  • ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน
  • ผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมาก
  • ผู้ที่มีความคาดหวังสูงเกินไป

6. นวัตกรรมกระชับผิว J-Plasma

ผสานคุณสมบัติเอกลักษณ์ของพลาสมาฮีเลียม (Plasma) ร่วมกับพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (RF: Radio Frequency) โดยคลื่นความถี่วิทยุ (RF) จะทำให้เซลล์ไขมันที่เป็นก้อนสลายตัวเป็นของเหลว และสามารถ ดูดไขมัน ออกมาได้อย่างนิ่มนวล ลดความบอบช้ำ เนื้อเยื่อและเซลล์รอบข้างได้รับความเสียหายน้อยที่สุด 

และพลังงานพลาสมา (Plasma) จะสร้างพลังงานความร้อนสูงถึง 85 องศาเซลเซียส ทำให้ผิวกระชับหดตัว เนื้อเยื่อจะเข้ามาติดกันทันทีหลังดูดไขมัน ช่วยลดการเกิดโพรงใต้ผิว กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวหลังดูดไขมันกระชับเรียบเนียนไม่เป็นคลื่น และสามารถทำควบคู่กับการ ดูดไขมัน Vaser LipoSelection เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงขึ้นและได้ผลลัพธ์ที่เห็นผลชัดเจน

หลักการนวัตกรรมกระชับผิว J-Plasma

  • พลังงาน RF สลายเซลล์ไขมันเป็นของเหลว ดูดไขมันออกง่าย
  • พลังงานพลาสมา สร้างความร้อน 85 องศา กระชับผิว ลดการเกิดโพรงใต้ผิว
  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ผิวเรียบเนียน ไม่เป็นคลื่น

ข้อดีของนวัตกรรมกระชับผิว J-Plasma

  • ลดรอยช้ำ อักเสบ ฟื้นตัวเร็ว
  • ผิวกระชับไว ไม่ต้องทำซ้ำ
  • เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก
  • กระตุ้นคอลลาเจน ผิวเรียบเนียน ยืดหยุ่น
  • ผิวกระชับทันที 10 – 30% ชัดเจนขึ้นหลัง 3 – 6 เดือน

นวัตกรรมกระชับผิว J-Plasma เหมาะกับใคร 

  • ผู้ต้องการดูดไขมัน กระชับผิวในคราวเดียว
  • ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว เห็นผลชัดเจน
  • ต้องการผิวเรียบเนียน ไม่เป็นคลื่น

ตำแหน่งของไขมันที่สะสมในร่างกาย

หลายคนคงเผชิญอยู่กับปัญหามี “พุง” เกินขนาด แล้วทำให้รู้สึกไม่มั่นใจกันอยู่ใช่มั้ย? แต่รู้กันหรือไม่ ว่าสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เรามีพุงนั้น มักเกิดจาก “ไขมันสะสม”  โดยสามารถแบ่งไขมันเหล่านี้ได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้

1. ไขมันสะสมในช่องท้อง (Visceral Fat)

ไขมันช่องท้อง หรือ Visceral Fat  คือ ไขมันที่สะสมอยู่รอบ ๆ อวัยวะภายในช่องท้อง ที่เกิดจากการเผาผลาญพลังงานไม่ทัน จึงส่งผลให้ไขมันไปเกาะอยู่ระหว่างกล้ามเนื้อท้องกับอวัยวะ ทำให้มีลักษณะท้องย้วย พุงป่อง

อันตรายแฝงจากไขมันช่องท้อง

  • ขัดขวางการไหลเวียนเลือด ส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ภาวะไขมันพอกตับ ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ข้อเข่าเสื่อม ภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ ภาวะหัวใจทำงานผิดปกติ โรคเรื้อรัง
  • เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง มะเร็งบางชนิด
  • กระตุ้นให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม

สัญญาณเตือนว่าคุณมีไขมันช่องท้อง

  • วัดรอบเอวได้มากกว่า 90 ซม. หรือ 35 นิ้ว (ผู้ชาย) หรือ 80 ซม. หรือ 31 นิ้ว (ผู้หญิง)
  • มีพุงย้วย ไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง
  • รู้สึกอึดอัด หายใจลำบากหลังกินอาหารอิ่ม

2. ไขมันสะสมใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat)

ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat) เป็นไขมันที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ชั้นผิวหนังของเรา จนทำให้กลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้หุ่นดูอ้วนขึ้น หน้าท้องใหญ่ขึ้น เอวหนาขึ้น จนทำให้หมดความมั่นใจ

สาเหตุของไขมันใต้ชั้นผิวหนัง

  • การกินอาหาร : กินมากกว่าที่ร่างกายต้องการ พลังงานส่วนเกินกลายเป็นไขมันสะสม
  • พฤติกรรม : ขาดการออกกำลังกาย นอนดึก เครียด ส่งผลต่อระบบเผาผลาญ

ผลเสียของไขมันใต้ชั้นผิวหนัง 

  • รูปร่างไม่สมส่วน ขาดความมั่นใจ
  • เสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
  • รู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว

วิธีจัดการไขมันช่องท้องและไขมันใต้ชั้นผิวหนัง

1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน

  • ลดปริมาณแคลอรี กินให้น้อยกว่าที่ใช้
  • เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักผลไม้ ธัญพืช โปรตีนไขมันต่ำ
  • ลดอาหารแปรรูป อาหารที่มีน้ำตาลสูง ไขมันอิ่มตัว
  • ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ

2. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

  • ฝึกคาร์ดิโอ 30 นาที 3 – 5 วันต่อสัปดาห์ เผาผลาญไขมันทั่วร่าง
  • ฝึกเวทเทรนนิ่ง 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เสริมสร้างกล้ามเนื้อ เผาผลาญพลังงาน
  • เลือกกิจกรรมที่ชอบ เพื่อความสม่ำเสมอ

3. ปรับพฤติกรรมอื่น ๆ

  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7 – 8 ชั่วโมงต่อวัน
  • จัดการความเครียด ฝึกสมาธิ โยคะ
  • เลิกสูบบุหรี่ จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์

4. ปรึกษาแพทย์

  • แพทย์จะประเมินความเสี่ยง ให้คำแนะนำและแนวทางการรักษาที่เหมาะสม
  • พิจารณาการรักษาเพิ่มเติม เช่น ดูดไขมัน ยาละลายไขมัน

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ไม่ว่าจะเป็นการกำจัดไขมันช่องท้องหรือการกำจัดไขมันใต้ชั้นผิวหนัง สิ่งสำคัญที่ต้องมีเลยก็คือความอดทน วินัย และความร่วมมือจากตัวเราเอง ควบคู่ไปกับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อสุขภาพที่ดี และมีหุ่นสวยดูมั่นใจ 

แต่สำหรับคนที่ลองมาทุกวิธีแล้ว ก็ยังไม่เห็นผลลัพธ์สักที การตัดสินใจทำศัลยกรรมดูดไขมันก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ตอบโจทย์ และนับว่าเป็นทางลัดที่จะสามารถช่วยกำจัดไขมันได้อย่างแม่นยำและตรงจุด

ส่วนไหนของร่างกาย ที่สามารถดูดไขมันส่วนเกินได้บ้าง

  • แก้ม
  • ใต้คาง
  • หลังต้นคอ
  • หน้าอก
  • ทรวงอก
  • หน้าท้อง
  • เอว
  • หลัง
  • สะโพก
  • ก้น
  • ต้นขา
  • เข่า
  • แขน
  • หลังรักแร้
  • ด้านหน้ารักแร้

ดูดไขมัน Vaser LipoSelection ที่โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC ดีอย่างไร?

  1. การใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound) 

เครื่อง Vaser LipoSelection ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงในการทำลายเซลล์ไขมัน ทำให้ไขมันกลายเป็นของเหลวและสามารถดูดออกได้อย่างง่ายดาย วิธีนี้ช่วยลดความเจ็บปวดและการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง และลดการเกิดรอยบวมช้ำได้เป็นอย่างดี

  1. การรักษาแบบเจาะจง 

การดูดไขมันด้วยวิธีนี้สามารถทำได้ในบริเวณเฉพาะจุด เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา และบริเวณอื่นๆ ที่ไม่สามารถลดไขมันได้ด้วยวิธีอื่น

  1. เทคนิค Diamond Shape™ 

เทคนิคนี้จะช่วยให้เอวคอดกิ่วและเพิ่มความโค้งงอนของหลังให้ดูงดงาม รับกับสรีระของร่างกาย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

  1. การกระชับผิวหนัง 

นอกจากการดูดไขมันแล้ว คลื่นเสียงความถี่สูงยังช่วยกระชับผิวหนัง ทำให้ผิวหนังไม่หย่อนคล้อยหลังจากการดูดไขมันอีกด้วย

  1. ความปลอดภัย 

วิธีนี้เป็นการดูดไขมันที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงจากการทำศัลยกรรมและการติดเชื้อ

ภาวะแทรกซ้อนจากการดูดไขมัน ที่ทุกคนควรรู้!!!

แม้ว่าการทำศัลยกรรมดูดไขมันจะเป็นเทคโนโลยีที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนี้

ภาวะแทรกซ้อนทั่วไป

  1. เลือดคั่ง เสียเลือดมาก : อาจเกิดจากการมีเลือดออกมากระหว่างการผ่าตัด หรือมีเลือดออกซึมหลังการผ่าตัด
  2. ภาวะเสียสารน้ำ หรือความผิดปกติของเกลือแร่ : อาจเกิดจากการสูญเสียเลือดหรือน้ำเกลือมากระหว่างการผ่าตัด
  3. บวม ช้ำ น้ำเหลืองคั่ง : อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นหลังการผ่าตัดและจะค่อยๆหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์
  4. ติดเชื้อบริเวณที่ผ่าตัด : อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่แผลผ่าตัด
  5. อาการชา หรือ แสบร้อนที่ผิวหนังมากกว่าปกติ : อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นชั่วคราวหลังการผ่าตัดและจะค่อยๆหายไปเอง

ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง

  1. แผลเป็น ผิวหนังเป็นคลื่น ลอน ไม่เรียบ : อาจเกิดจากการดูดไขมันไม่สม่ำเสมอ หรือผิวหนังของคนไข้ขาดความยืดหยุ่น
  2. การบาดเจ็บต่ออวัยวะข้างเคียง : อาจเกิดจากความผิดพลาดระหว่างการผ่าตัด ส่งผลต่อกล้ามเนื้อ ผนังหน้าท้อง หรือเส้นประสาท
  3. ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน (deep vein thrombosis , pulmonary emboli) : ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำลึก หรือ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด เป็นภาวะที่พบได้น้อยแต่ร้ายแรง
  4. แพ้ยาชา หรือ พิษจากยาชาหรือยาสลบที่ เกินขนาด : มักเกิดขึ้นในคลินิกที่ไม่มีมาตรฐานการดูแลความปลอดภัยที่เพียงพอ

ปัจจัยเสี่ยงต่อผลข้างเคียง

  • สุขภาพโดยรวมของผู้ป่วย
  • โรคประจำตัวที่มีอยู่
  • ยาที่รับประทานเป็นประจำ
  • ประสบการณ์ของแพทย์
  • มาตรฐานการดูแลความปลอดภัยของสถานพยาบาล

การดูแลหลังการผ่าตัด

  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • ประคบเย็นบริเวณที่ผ่าตัดเพื่อลดอาการบวมช้ำ
  • สวมใส่ชุดกระชับสัดส่วนตามคำแนะนำ
  • งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์และดื่มน้ำให้เพียงพอ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมหนัก ๆ

ข้อควรระวัง

  • เลือกสถานพยาบาลและแพทย์อย่างรอบคอบ
  • แจ้งแพทย์เกี่ยวกับสุขภาพ โรคประจำตัว ยาที่รับประทานเป็นประจำ
  • สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการผ่าตัด ผลข้างเคียง และค่าใช้จ่ายโดยละเอียด
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

สรุปเกี่ยวกับวิธีดูดไขมัน

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเลือกดูดไขมันด้วยวิธีไหน สุดท้ายแล้วการศึกษาข้อมูล เลือกสถานพยาบาลและแพทย์ และดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมหลังการผ่าตัด นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงแล้ว ยังสามารถช่วยให้ผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นไปตามความต้องการได้อีกด้วย 

ที่โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC เราคือโรงพยาบาลศัลยกรรมที่ได้รับมาตรฐาน Boutique Hospital ที่นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องมาตรฐานความสะอาด ปลอดภัยแล้ว ก็ยังได้รับความไว้วางใจจากเหล่าซุปตาร์ ดารา อินฟลูเอนเซอร์ และคนไข้จริง ผ่านเรียลลิตี้ไลฟ์หน้าเพจเฟสบุ๊ค “SLC Hospital : โรงพยาบาลศัลยกรรมตกแต่ง” 

ด้วยเหตุนี้เราตั้งใจว่า นอกจากจะให้ผลลัพธ์ที่เป็นไปตามความต้องการแล้ว เราก็พร้อมที่จะเปลี่ยนให้คุณเป็นคนใหม่ในเวอร์ชันที่ดีที่สุด เหมือนกับสโลแกน “Be Your Best Self เพราะทุกคนควรจะเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุด ไม่ใช่เป็นตัวเองในเวอร์ชันที่คนอื่นมองว่าดีที่สุด”

รีวิวดูดไขมัน Vaser Liposelection ที่ โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC







เสริมหน้าอก 355cc ดูดไขมัน Sexy Line ร่อง 11 #รีวิวหมอน้ำฝนSLC #รีวิวดูดไขมันSLC


Live นี้ต้องดู !!! หน้าท้องแม่เอ้ย !!! ดูดไขมัน พร้อมกระชับทันที สาวร่างเล็ก #รีวิวหมอเนยSLC #รีวิวดูดไขมันSLC


กำจัดไขมันฝังแน่น ดูดทุกจุด Vaser Liposelection ดูดไขมันแบบนิ่มนวล #รีวิวหมอเฟบSLC #รีวิวดูดไขมันSLC


อายุ 47 โชว์ Sexy line 6วัน #รีวิวหมอเนยSLC #รีวิวดูดไขมันSLC


ผอมแต่ก็ยังมีไขมัน เตรียมดูดไขมัน Vaser #รีวิวหมอเนยSLC #รีวิวดูดไขมันSLC


มาร์คตำแหน่งดูดไขมันวันนี้ ตัวไม่ใหญ่ แต่มีไขมันสะสม #รีวิวหมอโบ๊ทSLC #รีวิวดูดไขมันSLC


นวด RF หลังดูดไขมันทั้งตัว #รีวิวหมอซายSLC #รีวิวดูดไขมันSLC


ระหว่างดูดไขมัน บรรยากาศเป็นอย่างไร ไม่น่ากลัวนะจ๊ะ #รีวิวหมอซายน์SLC #รีวิวดูดไขมันSLC


3000cc ดูดไขมันเหมาหลัง แขน ขา ลำตัว หลังทำหุ่นหดเลย #รีวิวหมอซายน์SLC #รีวิวดูดไขมันSLC


6,000 cc หลังดูไขมัน 2 วัน หุ่นสับฉบับสาว AI #รีวิวหมอซายน์SLC #รีวิวดูดไขมันSLC


แก้ดูดไขมันจากที่อื่น ไขมันสะสม เกิดเป็นพุง หลังดูดไขมันหน้าท้อง #รีวิวหมอเนยSLC #รีวิวดูดไขมันSLC


Tagged : #.