” ตัดกระเพาะแล้วกินยังไง ดี? ” หรือ “เปลี่ยนแปลงชีวิตด้วยการ ตัดกระเพาะ แต่จะกินแบบเดิมได้ไหม?” คำถามเหล่านี้อาจเป็นสิ่งที่หลายคนสงสัยหลังจากตัดสินใจ ศัลยกรรมตัดกระเพาะ เพื่อ ลดน้ำหนัก และ รักษาโรคอ้วน ซึ่งการ ตัดกระเพาะอาหาร (Bariatric Surgery) เป็นทางเลือกที่ช่วยลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ ความสำเร็จของผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการกิน เพราะเมื่อกระเพาะมีขนาดเล็กลง ร่างกายจะได้รับสารอาหารน้อยลง การเลือกกินอาหารที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ทั้งเรื่องของ โภชนาการ การเลือกเมนูที่ถูกต้อง และวิธีแบ่งมื้ออาหารเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอ โดยเฉพาะในช่วง 1 เดือนแรกหลังการผ่าตัดกระเพาะ ซึ่งต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินใหม่ทั้งหมด ถ้ากำลังสงสัยว่า “ตัดกระเพาะแล้วต้องกินยังไง?” หรือ “เมนูอาหารหลังผ่าตัดกระเพาะ” ควรเป็นแบบไหน ไปหาคำตอบกันเลย
ตัดกระเพาะแล้วกินยังไง ? เข้าใจหลักการก่อนเปลี่ยนพฤติกรรม
- ระบบย่อยอาหารเปลี่ยนไป – หลัง ตัดกระเพาะอาหาร ขนาดกระเพาะเล็กลง ร่างกายจะรับอาหารได้น้อยลง และกระบวนการดูดซึมสารอาหารเปลี่ยนไป จึงต้องปรับการกินให้เหมาะสม
- ค่อย ๆ ปรับอาหารตามระยะ – หลัง ศัลยกรรมลดน้ำหนัก ต้องเริ่มจาก อาหารเหลว ก่อนเปลี่ยนเป็น อาหารอ่อน และค่อย ๆ ปรับเป็นอาหารปกติ เพื่อลดภาระของระบบย่อยอาหาร
- โภชนาการต้องมาก่อน – ควรเน้นอาหารที่ มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และ เลี่ยงน้ำตาล เพื่อลดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและช่วยให้การ ลดน้ำหนัก เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
เข้าใจหลักการแล้ว มาดูรายละเอียดกันว่าต้องกินอะไร และ เมนูอาหารหลังผ่าตัดกระเพาะ 1 เดือน ควรเป็นแบบไหน?
ตารางอาหารหลังผ่าตัดลดขนาดกระเพาะแบบสลีฟ (Sleeve Gastrectomy)
ระยะที่ 1 (Day 0 – Day 7) : ช่วงปรับตัวกับอาหารเหลว
Day 0 – Day 1 : เริ่มจากจิบน้ำเปล่า น้ำซุปใส หรือเครื่องดื่มโปรตีนที่ไม่มีไขมัน
Day 3 – Day 7 : ค่อย ๆ เพิ่มอาหารเหลวที่มีคุณค่า เช่น
- ซุปข้น
- นมสูตรทางการแพทย์ (รสจืด, High Protein)
- หลีกเลี่ยงนมรสหวานหรือรสช็อกโกแลตที่มีสารให้ความหวานแทนน้ำตาล
ระยะที่ 2 (Day 7 – Day 28) : อาหารอ่อนและย่อยง่าย
ช่วงนี้สามารถเริ่มกินอาหารบดละเอียดที่ย่อยง่าย เช่น
- แกงจืดเต้าหู้หมูสับ
- เนื้อปลานึ่ง
- ไข่ตุ๋น
- หมูตุ๋น
- ก๋วยเตี๋ยว (เส้นนิ่ม)
คำแนะนำ : ทุกคำต้องเคี้ยวจนละเอียดก่อนกลืน เพื่อลดการทำงานของกระเพาะอาหาร
ระยะที่ 3 (Day 28 เป็นต้นไป) : เริ่มกลับไปกินอาหารปกติ
สามารถเพิ่มอาหารที่มีเนื้อสัมผัสมากขึ้น เช่น
- เนื้อสัตว์ย่อยง่าย (ไก่, ปลา, หมูไม่ติดมัน)
- ผักต้มสุก
- ผลไม้เนื้อนิ่มที่ไม่หวานจัด
คำแนะนำ : ยังต้องหลีกเลี่ยงผักผลไม้แข็ง ก้านผัก และอาหารที่ย่อยยาก จนกว่าจะครบ 60 วัน
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร
❌ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
❌ น้ำอัดลมและโซดา
❌ อาหารร้อนจัด
❌ อาหารรสเผ็ดจัด
❌ เครื่องดื่มให้พลังงานสูง เช่น Energy Drink
ปรับพฤติกรรมการกินใหม่ ให้เข้ากับร่างกายหลังตัดกระเพาะ
หลัง ตัดกระเพาะอาหาร ระบบการย่อยและการดูดซึมสารอาหารจะเปลี่ยนไป จึงต้องปรับวิธีการกินให้เหมาะสม ไม่ใช่แค่ลดปริมาณ แต่ต้อง เลือกกินให้เป็น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และทำให้ลดน้ำหนักได้อย่างยั่งยืน สุขภาพแข็งแรง
- กินทีละน้อย แต่กินบ่อยขึ้น – ควรแบ่งเป็น 5-6 มื้อต่อวัน แทนการกินหนัก 3 มื้อใหญ่ ๆ
- เคี้ยวอาหารให้ละเอียด – เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ง่าย ลดอาการแน่นท้อง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ แต่ไม่ควรดื่มพร้อมอาหาร – เพราะอาจทำให้แน่นท้องเร็ว และลดพื้นที่ของอาหารที่มีสารอาหารสำคัญ
- หลีกเลี่ยงของทอด ของมัน และน้ำตาลสูง – ลดความเสี่ยงต่อภาวะโยโย่ และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ตัดกระเพาะ ไม่ใช่แค่ลดน้ำหนัก แต่ต้องเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
ศัลยกรรมตัดกระเพาะ เป็นทางเลือกที่ช่วย ลดน้ำหนัก และ รักษาโรคอ้วน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ผลลัพธ์จะดีแค่ไหนขึ้นอยู่กับการปรับพฤติกรรมการกินให้เหมาะสมหลังการผ่าตัด ใครที่กำลังศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ ตัดกระเพาะอาหาร หรือสงสัยว่า กินยังไงหลังตัดกระเพาะ สามารถเข้ามาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการหรือทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ได้ และถ้ายังลังเลว่าจะเลือก ศัลยกรรมตัดกระเพาะที่ไหนดี ที่ โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC มีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้าน ศัลยกรรมลดน้ำหนัก พร้อมดูแลตั้งแต่การวางแผน เมนูอาหารหลังผ่าตัดกระเพาะ ไปจนถึงการติดตามผลในระยะยาว เพื่อให้มั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเห็นผลและยั่งยืน