” ตัดกระเพาะแล้วกินยังไง ดี? ” หรือ “เปลี่ยนแปลงชีวิตด้วยการ ตัดกระเพาะ แต่จะกินแบบเดิมได้ไหม?” คำถามเหล่านี้อาจเป็นสิ่งที่หลายคนสงสัยหลังจากตัดสินใจ ศัลยกรรมตัดกระเพาะ เพื่อ ลดน้ำหนัก และ รักษาโรคอ้วน ซึ่งการ ตัดกระเพาะอาหาร (Bariatric Surgery) เป็นทางเลือกที่ช่วยลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ ความสำเร็จของผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการกิน เพราะเมื่อกระเพาะมีขนาดเล็กลง ร่างกายจะได้รับสารอาหารน้อยลง การเลือกกินอาหารที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ทั้งเรื่องของ โภชนาการ การเลือกเมนูที่ถูกต้อง และวิธีแบ่งมื้ออาหารเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอ โดยเฉพาะในช่วง 1 เดือนแรกหลังการผ่าตัดกระเพาะ ซึ่งต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินใหม่ทั้งหมด ถ้ากำลังสงสัยว่า “ตัดกระเพาะแล้วต้องกินยังไง?” หรือ “เมนูอาหารหลังผ่าตัดกระเพาะ” ควรเป็นแบบไหน ไปหาคำตอบกันเลย

ตัดกระเพาะแล้วกินยังไง ? เข้าใจหลักการก่อนเปลี่ยนพฤติกรรม

  1. ระบบย่อยอาหารเปลี่ยนไป – หลัง ตัดกระเพาะอาหาร ขนาดกระเพาะเล็กลง ร่างกายจะรับอาหารได้น้อยลง และกระบวนการดูดซึมสารอาหารเปลี่ยนไป จึงต้องปรับการกินให้เหมาะสม
  2. ค่อย ๆ ปรับอาหารตามระยะ – หลัง ศัลยกรรมลดน้ำหนัก ต้องเริ่มจาก อาหารเหลว ก่อนเปลี่ยนเป็น อาหารอ่อน และค่อย ๆ ปรับเป็นอาหารปกติ เพื่อลดภาระของระบบย่อยอาหาร
  3. โภชนาการต้องมาก่อน – ควรเน้นอาหารที่ มีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และ เลี่ยงน้ำตาล เพื่อลดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและช่วยให้การ ลดน้ำหนัก เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

เข้าใจหลักการแล้ว มาดูรายละเอียดกันว่าต้องกินอะไร และ เมนูอาหารหลังผ่าตัดกระเพาะ 1 เดือน ควรเป็นแบบไหน?

ตารางอาหารหลังผ่าตัดลดขนาดกระเพาะแบบสลีฟ (Sleeve Gastrectomy)

ระยะที่ 1 (Day 0 – Day 7) : ช่วงปรับตัวกับอาหารเหลว

Day 0 – Day 1 : เริ่มจากจิบน้ำเปล่า น้ำซุปใส หรือเครื่องดื่มโปรตีนที่ไม่มีไขมัน

Day 3 – Day 7 : ค่อย ๆ เพิ่มอาหารเหลวที่มีคุณค่า เช่น

  • ซุปข้น
  • นมสูตรทางการแพทย์ (รสจืด, High Protein)
  • หลีกเลี่ยงนมรสหวานหรือรสช็อกโกแลตที่มีสารให้ความหวานแทนน้ำตาล

ระยะที่ 2 (Day 7 – Day 28) : อาหารอ่อนและย่อยง่าย

ช่วงนี้สามารถเริ่มกินอาหารบดละเอียดที่ย่อยง่าย เช่น

  • แกงจืดเต้าหู้หมูสับ
  • เนื้อปลานึ่ง
  • ไข่ตุ๋น
  • หมูตุ๋น
  • ก๋วยเตี๋ยว (เส้นนิ่ม)

คำแนะนำ : ทุกคำต้องเคี้ยวจนละเอียดก่อนกลืน เพื่อลดการทำงานของกระเพาะอาหาร

ระยะที่ 3 (Day 28 เป็นต้นไป) : เริ่มกลับไปกินอาหารปกติ

สามารถเพิ่มอาหารที่มีเนื้อสัมผัสมากขึ้น เช่น

  • เนื้อสัตว์ย่อยง่าย (ไก่, ปลา, หมูไม่ติดมัน)
  • ผักต้มสุก
  • ผลไม้เนื้อนิ่มที่ไม่หวานจัด

คำแนะนำ : ยังต้องหลีกเลี่ยงผักผลไม้แข็ง ก้านผัก และอาหารที่ย่อยยาก จนกว่าจะครบ 60 วัน

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงหลังผ่าตัดกระเพาะอาหาร

❌ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

❌ น้ำอัดลมและโซดา

❌ อาหารร้อนจัด

❌ อาหารรสเผ็ดจัด

❌ เครื่องดื่มให้พลังงานสูง เช่น Energy Drink

ปรับพฤติกรรมการกินใหม่ ให้เข้ากับร่างกายหลังตัดกระเพาะ

หลัง ตัดกระเพาะอาหาร ระบบการย่อยและการดูดซึมสารอาหารจะเปลี่ยนไป จึงต้องปรับวิธีการกินให้เหมาะสม ไม่ใช่แค่ลดปริมาณ แต่ต้อง เลือกกินให้เป็น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และทำให้ลดน้ำหนักได้อย่างยั่งยืน สุขภาพแข็งแรง

  • กินทีละน้อย แต่กินบ่อยขึ้น – ควรแบ่งเป็น 5-6 มื้อต่อวัน แทนการกินหนัก 3 มื้อใหญ่ ๆ
  • เคี้ยวอาหารให้ละเอียด – เพื่อช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ง่าย ลดอาการแน่นท้อง
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ แต่ไม่ควรดื่มพร้อมอาหาร – เพราะอาจทำให้แน่นท้องเร็ว และลดพื้นที่ของอาหารที่มีสารอาหารสำคัญ
  • หลีกเลี่ยงของทอด ของมัน และน้ำตาลสูง – ลดความเสี่ยงต่อภาวะโยโย่ และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

ตัดกระเพาะ ไม่ใช่แค่ลดน้ำหนัก แต่ต้องเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น

ศัลยกรรมตัดกระเพาะ เป็นทางเลือกที่ช่วย ลดน้ำหนัก และ รักษาโรคอ้วน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ผลลัพธ์จะดีแค่ไหนขึ้นอยู่กับการปรับพฤติกรรมการกินให้เหมาะสมหลังการผ่าตัด ใครที่กำลังศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ ตัดกระเพาะอาหาร หรือสงสัยว่า กินยังไงหลังตัดกระเพาะ สามารถเข้ามาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการหรือทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์ได้ และถ้ายังลังเลว่าจะเลือก ศัลยกรรมตัดกระเพาะที่ไหนดี ที่ โรงพยาบาลศัลยกรรม SLC มีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้าน ศัลยกรรมลดน้ำหนัก พร้อมดูแลตั้งแต่การวางแผน เมนูอาหารหลังผ่าตัดกระเพาะ ไปจนถึงการติดตามผลในระยะยาว เพื่อให้มั่นใจว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะเห็นผลและยั่งยืน

Tagged : #.