เหลา ยุบ ทุบหน้าเรียว ด้วยศัลยกรรมเหลาโหนกแก้ม

เทรนด์ความงามเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแฟชั่น การแต่งหน้า หรือแม้แต่โครงหน้าเองก็ไม่เว้น! ช่วงนี้กระแสการมีใบหน้าที่เรียวเล็กและดูอ่อนละมุน เหมือนพี่สาวจีนกำลังมาแรง ซึ่งตรงข้ามกับลุคที่มีโหนกแก้มสูงที่เคยเป็นที่นิยมในอดีต โหนกแก้มสูงอาจทำให้ใบหน้าดูแข็ง ไม่ละมุน และทำให้ลุคของคุณดูแก่กว่าวัย แท้จริงแล้วเราไม่ได้หน้าตึง แต่โหนกดึงให้ดูดุ แต่ก็ไม่ต้องกังวลเพราะปัจจุบันมีการศัลยกรรมเหลาโหนกแก้มที่สามารถช่วยให้ใบหน้าของคุณดูหวาน ดูเด็กลง และละมุนขึ้นจนกลายเป็นสาวหน้าเรียวที่ใคร ๆ ก็ต้องหลงรัก!

สารบัญบทความ

• หน้าไม่ได้ตึง แต่โหนกดึงให้ดูดุ
• โหนกแก้มสูงลักษณะเป็นอย่างไร
• สังเกตโหนกแก้มสูงได้อย่างไร?
• โหนกแก้มสูงเกิดจากอะไร?
• เหลาโหนกแก้มสูง เนรมิตหน้าเรียว
• สยบโหนกสูงแบบไหนเหมาะกับคุณ
• จบปัญหาโหนกสูง ด้วยการศัลยกรรมทุบโหนก!

โหนกแก้มสูง (Prominent Cheekbones) คือ ลักษณะของกระดูกโหนกแก้มที่ยื่นออกมาจากใบหน้าชัดเจน โหนกแก้มสูงมากเกินไปอาจทำให้ใบหน้าดูคมและแข็งเกินไปในบางมุม ขณะที่ใบหน้าที่มีโหนกแก้มต่ำและไม่โดดเด่นมากนักจะทำให้ดูละมุนและนุ่มนวลขึ้น

วิธีสังเกตว่าโหนกแก้มของคุณสูงเกินไปหรือไม่คือการเช็กสัดส่วนของใบหน้าจากมุมด้านข้าง ลองวัดความสูงของโหนกแก้มโดยแบ่งใบหน้าออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ จากหัวตาไปยังกลางดวงตา จากกลางดวงตาไปยังหางตา และจากหางตาไปยังโหนกแก้ม ถ้าสัดส่วนสุดท้ายนี้ยื่นออกมาเด่นชัดและดูไม่สมดุลกับส่วนอื่นของใบหน้า นั่นแสดงว่าโหนกแก้มของคุณอาจสูงเกินไป ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ใบหน้าดูคมเฉี่ยวมากกว่าที่ต้องการ

โหนกแก้มใหญ่และสูงเป็นลักษณะที่มักพบในคนเอเชีย เนื่องจากพันธุกรรมที่สืบทอดกันมา ใครที่มีโหนกแก้มเด่นชัดอาจรู้สึกว่าใบหน้าดูแข็งและกว้างในบางมุมแต่ไม่ต้องกังวล! เพราะปัจจุบันมีทางเลือกทางการแพทย์อย่าง ศัลยกรรมกรอกระดูกโหนกแก้ม ที่สามารถช่วยปรับให้โครงหน้าเข้ารูปมากขึ้น ไม่ว่าจะเพื่อความสมดุล หรือเสริมโหงวเฮ้งให้ดียิ่งขึ้น การลดกระดูกโหนกแก้มมี 2 ส่วนหลัก ๆ ที่ศัลยแพทย์ต้องพิจารณา

1. กระดูกส่วน Body กระดูกในบริเวณนี้เป็นโพรงอากาศ ทำให้กรอออกได้อย่างปลอดภัยไม่กระทบเส้นประสาท แต่มีกฎเหล็กคือ กรอออกได้ไม่เกิน 1 ซม. บางคนกรอได้แค่ 0.5 ซม.เท่านั้น ขึ้นอยู่กับความหนาของกระดูก
2. กระดูกส่วน Arch กระดูก Arch หรือโหนกแก้มด้านข้างเป็นตัวการที่ทำให้หน้าเราดูกว้างเกินจริง! ถ้าส่วนนี้เยอะไป ศัลยแพทย์จะตัดและเลื่อนเข้ามา แล้วก็ใช้วัสดุทางการแพทย์เชื่อมกระดูกเข้าหากัน ทำให้หน้าเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด

การที่โครงหน้าของเรามีกระดูกโหนกแก้มเด่นชัดจนทำให้ใบหน้ามีมิติอย่างมาก แต่สำหรับบางคน โหนกแก้มที่สูงเกินไปอาจทำให้ใบหน้าดูแข็งกร้าวและขาดความละมุน มาดูกันว่าโหนกแก้มสูงมีหลากหลายแบบอย่างไรบ้าง และแต่ละแบบมีลักษณะเป็นอย่างไร

1. โหนกแก้มยื่นออกไปด้านหน้า

โหนกแก้มลักษณะนี้จะยื่นออกมาเด่นชัดบริเวณใต้ตา ทำให้ใบหน้าดูคมชัดเหมือนมีฟิลเตอร์หน้าคมจากมุมมองด้านหน้า แต่บางครั้งอาจทำให้ใบหน้าดูแข็งเกินไปและขาดความอ่อนโยนเหมือนกับว่าไม่ต้องการให้ใครมาหยอก

2. โหนกแก้มยื่นออกไปด้านข้าง

ลักษณะนี้จะเห็นได้ชัดจากการมองด้านข้าง โดยโหนกแก้มจะยื่นออกมาจากด้านข้างของใบหน้า ทำให้โครงหน้าดูมีมิติ แต่ก็อาจทำให้หน้าดูใหญ่เกินไปจากมุมนี้ เลยทำให้หน้าบาน

3. โหนกแก้มยื่นออกด้านข้างแก้ม

โหนกแก้มที่ยื่นออกมาตรงบริเวณข้างแก้มทำให้ใบหน้าดูแบนเมื่อมองตรง แต่กลับทำให้หน้าดูใหญ่จากมุมด้านข้าง

4. โหนกแก้มสูงหนา

โหนกแก้มที่มีความหนาและสูงทำให้ใบหน้าดูเด่นชัดมาก แต่มันก็อาจทำให้หน้าดูแข็งเกินไป

5. โหนกแก้มใหญ่ นูนชัดเจน

ลักษณะนี้ทำให้ใบหน้าดูมีมิติอย่างชัดเจน แต่ถ้าโหนกแก้มเด่นเกินไปอาจทำให้ใบหน้าดูใหญ่ไม่สมดุลกับส่วนอื่น ๆ ของใบหน้า

6. โหนกแก้มสูง ฐานกว้าง:

โหนกแก้มที่มีฐานกว้างทำให้ใบหน้าดูกว้างและขาดความละมุน ถ้าลดโหนกแก้ม จะทำให้หน้าดูเรียวขึ้นและสมดุลมากกว่า

ศัลยกรรมแก้ม หรือลดโหนกแก้มเหมาะกับผู้ที่มีโหนกแก้มเด่นชัด ไม่ว่าจะยื่นออกไปด้านหน้า ด้านข้าง หรือมีขนาดใหญ่ การลดโหนกแก้มจะช่วยปรับใบหน้าให้สมส่วนและดูละมุนขึ้น เหมือนการทำให้เส้นขอบของภาพกลับมาสวยงามและเรียบร้อย

โหนกแก้มสูงอาจทำให้ใบหน้าของคุณดูคมชัดและมีมิติ แต่บางครั้งมันก็อาจทำให้ใบหน้าดูแข็งเกินไป จึงอาจต้องการการวัดและประเมินเพื่อให้แน่ใจว่าโหนกแก้มของคุณอยู่ในลักษณะไหน มาดูวิธีการง่าย ๆ ในการตรวจสอบโหนกแก้มของคุณกันดีกว่า โดยใช้การวัดสัดส่วนของใบหน้าด้านข้างดังนี้

ส่วนที่ 1: หัวตาไปจนถึงกลางดวงตา

เริ่มวัดจากหัวตาไปยังกลางดวงตา เป็นจุดเริ่มต้นของการประเมินสัดส่วนใบหน้าด้านข้าง ถ้าระยะนี้สั้น จะทำให้โหนกแก้มดูเด่นชัดขึ้น

ส่วนที่ 2: กลางดวงตาไปจนถึงหางตา

วัดระยะจากกลางดวงตาถึงหางตา ซึ่งเป็นส่วนที่กำหนดความยาวของกระดูกโหนกแก้ม หากส่วนนี้สั้นกว่า อาจทำให้โหนกแก้มดูยื่นออกมาและเด่นชัดมากขึ้น

ส่วนที่ 3: หางตายาวไปจนถึงโหนกแก้มบริเวณไรผม

สุดท้าย วัดจากหางตาถึงโหนกแก้ม ซึ่งยาวไปจนถึงไรผม ระยะนี้จะบอกว่าโหนกแก้มของคุณยื่นออกมามากแค่ไหน ถ้าส่วนนี้ยาวกว่า แสดงว่าโหนกแก้มของคุณมีขนาดใหญ่และเด่นชัด ทำให้ใบหน้าดูคมชัดและมีมิติ

วิธีประเมินผล

1. ถ้าส่วนที่ 3 แคบกว่าส่วนที่ 2 โหนกแก้มของคุณอาจจะค่อนข้างเล็ก ทำให้ใบหน้าดูเรียวและอ่อนโยน ละมุนไม่มีการเน้นความคมชัดของกระดูกใบหน้าอย่างเกินไป
2. ถ้าส่วนที่ 3 พอดีกับส่วนที่ 2 โหนกแก้มของคุณอยู่ในลักษณะปกติ โครงหน้าดูสมดุลและมีมิติแบบธรรมชาติ ทำให้ใบหน้าดูเข้ารูปอย่างลงตัว ไม่มีอะไรเด่นเกินไป ซึ่งเป็นลักษณะที่หลายคนชื่นชอบเพราะทำให้มีใบหน้าดูเก๋
3. ถ้าส่วนที่ 3 กว้างกว่าส่วนที่ 2 โหนกแก้มของคุณอาจใหญ่และเด่นชัด ทำให้ใบหน้าดูคมชัดและอาจมีความแข็งเกินไป

โหนกแก้มสูงอาจทำให้ใบหน้าของคุณดูโดดเด่นและคมชัดเกินไป แต่รู้ไหมว่าโหนกแก้มสูงเกิดจากหลายปัจจัยที่แตกต่างกัน? มาดูสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้โหนกแก้มของคุณดูสูงกันดีกว่า

1. พันธุกรรม : คุณรู้ไหมว่าคุณอาจได้โหนกแก้มสูงมาจากครอบครัว? ใช่แล้ว! หากบรรพบุรุษของคุณมีโหนกแก้มสูง โอกาสที่คุณจะมีลักษณะนี้ก็ค่อนข้างสูงเช่นกัน การสืบทอดลักษณะโครงหน้าแบบนี้เป็นเรื่องปกติและเป็นสิ่งที่คุณอาจได้มาตั้งแต่เกิด
2. โครงสร้างกระดูกใบหน้า : โครงสร้างกระดูกของคุณก็มีส่วนสำคัญในการทำให้โหนกแก้มดูสูง หากกระดูกโหนกแก้มของคุณเจริญเติบโตอย่างชัดเจน มันก็จะทำให้ใบหน้าของคุณมีมิติและดูเด่นขึ้นโดยเฉพาะเมื่อกระดูกพัฒนาเต็มที่
3. การสะสมไขมันบริเวณโหนกแก้ม : แม้ว่าโหนกแก้มสูงจะเกี่ยวข้องกับกระดูกเป็นหลัก แต่การสะสมไขมันที่บริเวณโหนกแก้มก็มีบทบาทด้วย ไขมันที่สะสมอยู่จะทำให้โหนกแก้มดูสูงขึ้นและอาจทำให้หน้าของคุณดูใหญ่ขึ้นได้
4. อายุที่เพิ่มขึ้น : เมื่อเรามีอายุมากขึ้นโครงหน้าก็อาจเปลี่ยนแปลง กระดูกและไขมันที่โหนกแก้มอาจเริ่มหย่อนคล้อยหรือเคลื่อนที่ ซึ่งอาจทำให้โหนกแก้มดูเด่นมากขึ้นและทำให้ใบหน้าของคุณดูแข็งกระด้าง
5. ลักษณะการใช้ชีวิตและพฤติกรรม : พฤติกรรมการดูแลผิวหน้าและการออกกำลังกายใบหน้าก็มีผลต่อโครงสร้างของใบหน้า การออกกำลังกายหรือการเกร็งกล้ามเนื้อใบหน้าอาจทำให้โหนกแก้มดูสูงขึ้น นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงก็อาจส่งผลให้โหนกแก้มของคุณดูเด่นชัดขึ้น

ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรมหรือการเปลี่ยนแปลงตามอายุ การทราบถึงสาเหตุของโหนกแก้มสูงจะช่วยให้คุณเข้าใจลักษณะของใบหน้าตัวเองได้ดีขึ้น และหากคุณรู้สึกว่าโหนกแก้มสูงเกินไป การปรึกษาศัลยแพทย์ด้านศัลยกรรมสามารถช่วยให้คุณปรับรูปหน้าให้ดูสมดุลและละมุนมากขึ้นได้!

โหนกแก้มสูงอาจทำให้ใบหน้าของคุณดูแข็งและขาดความสมดุล แต่ไม่ต้องกังวล! วันนี้แอดมีเคล็ดลับเด็ด ๆ ที่จะช่วยให้โหนกแก้มของคุณดูเรียวและละมุนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคที่ไม่ต้องผ่าตัดหรือการศัลยกรรมที่ทันสมัย ซึ่งมีหลากหลายวิธีในการแก้ไขโหนกแก้มสูงที่สามารถเลือกได้ตามความต้องการและลักษณะโครงหน้าของคุณ! มาดูกันว่าแต่ละวิธีจะช่วยสยบโหนกสูงอย่างไรกันบ้าง?

อยากให้โหนกแก้มดูเรียวขึ้นแบบไม่ต้องผ่าตัด? ต้องลองฉีดโปรแกรมโบท็อกเลย! โบท็อกจะช่วยลดขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณโหนกแก้ม ทำให้โหนกแก้มดูเล็กลงและใบหน้าดูละมุนขึ้นได้ภายใน 1-2 สัปดาห์หลังการฉีด แม้ผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน แต่ก็ง่ายและรวดเร็ว

หากปัญหาของคุณคือไขมันสะสมที่โหนกแก้ม เมโสแฟตอาจเป็นทางเลือกที่ดี การฉีดเมโสแฟตจะช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน ทำให้โหนกแก้มดูเล็กลงและเรียวขึ้นได้ภายใน 2-4 สัปดาห์หลังการฉีด

ฟิลเลอร์ไม่ใช่แค่เติมเต็มร่องหน้า แต่ยังช่วยปรับสมดุลของโหนกแก้มได้อีกด้วย การฉีดฟิลเลอร์จะทำให้โหนกแก้มดูสมส่วนขึ้น และใบหน้าดูละมุนขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน

Hifu หรือ High-Intensity Focused Ultrasound ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์เข้มข้นในการยกกระชับผิวและลดไขมันที่โหนกแก้ม วิธีนี้ไม่ต้องผ่าตัด และเห็นผลใน 2-3 เดือนหลังทำ

Thermage ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงในการกระชับผิวหน้าและลดไขมันที่โหนกแก้ม ช่วยให้ใบหน้าดูเรียบเนียนขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ผลลัพธ์เริ่มเห็นชัดเจนใน 3-6 เดือนและคงอยู่ได้นานหลายปี

การร้อยไหมสามารถช่วยยกกระชับและลดโหนกแก้มสูง โดยการร้อยไหมจะช่วยให้โหนกแก้มดูเล็กลงและสมดุลมากขึ้น ผลลัพธ์เห็นทันทีและอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี

ถ้าคุณต้องการผลลัพธ์ที่ชัดเจนและถาวร การศัลยกรรมกรอกโหนกแก้มเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับใครที่อยากได้ผลลัพธ์ถาวร ซึ่งศัลยแพทย์จะทำการการตัด เลื่อน ยุบกระดูกโหนกแก้มกระดูกส่วนเกินออก หรือ การเหลาโหนกแก้ม ขึ้นอยู่กับปัญหาของโครงสร้างกระดูก จึงทำให้ได้ผลลัพธ์โหนกแก้มเล็กลงและใบหน้าดูเรียวขึ้น แต่ต้องใช้เวลาพักฟื้นหลังการผ่าตัด

หากโหนกแก้มของคุณสูงเกินไปจนทำให้ใบหน้าดูแข็งและขาดความสมดุล การเลือกวิธีปรับลดโหนกแก้มที่เหมาะสมจะช่วยให้ใบหน้าของคุณดูละมุนและเข้ารูปหน้ามากขึ้น! มาดูกันว่ามีวิธีแก้ไขไหนที่เหมาะสมกับคุณที่สุด

การฉีดโบท็อกจะช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อบริเวณโหนกแก้ม ทำให้ใบหน้าดูเรียวและสมดุลมากขึ้น แต่ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้เพียง 4-6 เดือน หลังจากนั้นต้องฉีดซ้ำเพื่อรักษาผลลัพธ์ เหมาะกับคนที่มีโหนกแก้มสูงจากกล้ามเนื้อที่ใหญ่เกินไป เช่น กล้ามเนื้อบริเวณกรามและแก้ม

เมโสแฟตเป็นการฉีดสารสลายไขมันเฉพาะจุด ทำให้โหนกแก้มดูเล็กลงและสมส่วนมากขึ้น วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันบริเวณโหนกแก้มมากกว่าปัญหาเรื่องกระดูก

ฟิลเลอร์ช่วยเพิ่มความสมดุลให้ใบหน้าโดยการเติมเต็มบริเวณที่ดูแบน ทำให้โหนกแก้มดูละมุนขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน เหมาะกับคนที่ต้องการปรับสมดุลของใบหน้าด้วยการเติมเต็มบริเวณรอบโหนกแก้ม

Hifu ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ยกกระชับผิวและสลายไขมันบริเวณโหนกแก้ม ช่วยให้ใบหน้าดูเรียวและกระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลในระยะเวลา 2-3 เดือน เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาโหนกแก้มสูงจากการสะสมไขมันมากกว่ากระดูกเด่น

Thermage ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูงในการกระชับผิวและลดไขมันบริเวณโหนกแก้ม ทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียนและสมดุลขึ้น วิธีนี้ไม่ต้องผ่าตัดและไม่มีแผล เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยและไขมันสะสมใต้ผิวบริเวณโหนกแก้ม

การร้อยไหมจะช่วยยกกระชับผิวบริเวณโหนกแก้ม ทำให้ใบหน้าดูเรียวและละมุน ผลลัพธ์คงอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี โดยไม่ต้องผ่าตัดและฟื้นตัวเร็ว เหมาะกับคนที่ต้องการยกกระชับโหนกแก้มและต้องการเห็นผลลัพธ์ทันทีโดยไม่ต้องผ่าตัด

การศัลยกรรมทุบโหนกแก้มเป็นวิธีที่ใช้การตัดกระดูกส่วนเกินออก ทำให้โหนกแก้มดูเล็กลงอย่างชัดเจนและถาวร เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนโครงหน้าแบบถาวร แต่ต้องใช้เวลาพักฟื้น

เป็นอย่างไรกันบ้างกับบทความที่แอดนำมาฝาก? หวังว่าคุณจะได้พบวิธีที่เหมาะกับโหนกแก้มสูงของคุณและเข้าใจถึงวิธีการแก้ไขที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดโบท็อก ฟิลเลอร์ หรือการศัลยกรรมทุบโหนกแก้มสูง คุณสามารถเลือกวิธีที่ตอบโจทย์ความต้องการและความสะดวกของคุณได้

ถ้าคุณสนใจอยากศัลยกรรมกรอกโหนกหรือปรับโครงหน้าให้สวยงามยิ่งขึ้น อย่าลังเลที่จะมาปรึกษาเราได้ที่ SLC Hospital ทีมศัลยแพทย์มืออาชีพของเราพร้อมให้คำแนะนำและดูแลคุณอย่างดีที่สุด พร้อมเนรมิตใบหน้าให้เรียวสวยสมดุลและเต็มไปด้วยความมั่นใจ!