“ทำไมหุ่นฉันยังไม่สวยเหมือนที่คิดไว้?…ทำไมดูดไขมันมาแล้วต้องแก้?  

นี่คือคำถามที่หลายคนตั้งขึ้นหลังจากผ่าตัดดูดไขมันไปแล้ว เมื่อมองตัวเองในกระจก แทนที่จะเห็นสัดส่วนที่เรียบเนียนแล้ว กลับพบกับรอยหลุมบ๊อก ผิวขรุขระ หรือบางจุดยังเหลือไขมันอยู่เยอะ 

หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่กำลังเผชิญกับปัญหานี้ เราเข้าใจดีว่าคุณรู้สึกผิดหวังแค่ไหน การลงทุนทั้งเงินทอง เวลา และความคาดหวัง แต่กลับได้ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ 

บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจสาเหตุที่ต้องแก้ไขการดูดไขมัน พร้อมข้อมูลครบถ้วนที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจในครั้งต่อไป 

 

ดูดไขมันมาแล้วทำไมต้องแก้? สาเหตุหลักที่พบบ่อย 

ผิวขรุขระและรอยหลุมบ๊อก (Irregular Skin Surface) 

หลังจากดูดไขมันแล้ว ผิวหนังอาจมีความไม่เรียบเนียน เกิดรอยหลุมหรือนูนบ๊อกได้ สาเหตุมาจาก 

  • การดูดไขมันไม่สม่ำเสมอ 
  • ความยืดหยุ่นของผิวหนังไม่เพียงพอ 
  • การฟื้นตัวที่ไม่สมบูรณ์ 

 ไขมันเหลือมากเกินไป (Incomplete Fat Removal) 

บางครั้งไขมันที่ดูดออกไปอาจไม่เพียงพอ ทำให้ยังคงมีไขมันเหลืออยู่มาก สาเหตุอาจเป็น 

  • การประเมินปริมาณไขมันที่ผิดพลาด 
  • ข้อจำกัดด้านความปลอดภัยในการดูดครั้งเดียว 
  • เทคนิคการดูดที่ไม่เหมาะสม 

รูปร่างไม่สมมาตร (Asymmetry) 

ความไม่สมมาตรเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย เช่น 

  • ข้างซ้ายกับข้างขวาไม่เท่ากัน 
  • สัดส่วนไม่เป็นธรรมชาติ 
  • การเชื่อมต่อระหว่างบริเวณต่าง ๆ ไม่ลื่น 

แผลเป็นที่เห็นได้ชัด (Visible Scarring) 

แม้จะเป็นรอยแผลเล็ก แต่หากดูแลไม่ดีอาจเกิดแผลเป็นที่เห็นได้ชัด 

การกลับมาของไขมัน (Fat Recurrence) 

ไขมันบางส่วนอาจกลับมาได้หากไม่ดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม 

 

การแก้ไขการดูดไขมัน มีวิธีไหนบ้าง? 

การดูดไขมันซ้ำ (Revision Liposuction) 

  • เหมาะสำหรับกรณีที่ยังมีไขมันเหลือมาก 
  • ใช้เทคนิคที่ละเอียดกว่าครั้งแรก 
  • อาจรวมกับการฉีดไขมันเพื่อปรับแต่งรูปร่าง 

การฉีดไขมันเติม (Fat Grafting) 

  • เหมาะสำหรับการปรับรอยหลุมบ๊อก 
  • ใช้ไขมันจากส่วนอื่นของร่างกายมาเติม 
  • ให้ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ 

การรักษาด้วยเลเซอร์ (Laser Treatment) 

  • ช่วยกระชับผิวหนัง 
  • ลดความขรุขระของผิว 
  • เหมาะสำหรับปัญหาเล็กน้อย  

 

แนะนำเครื่องสำหรับยกกระชับ เช่น โปรแกรม J Plasma หรือ โปรแกรม Renuvion  ยกกระชับ ผิวเนียน 

ใช้พลังงาน พลาสมาเย็น (Cold Plasma) ผสาน RF และก๊าซฮีเลียม ฟื้นฟูผิวลึกถึงชั้นใน กระตุ้นคอลลาเจน ช่วยยกกระชับและทำให้ผิวเนียนใส  

โปรแกรม Renuvion พัฒนาต่อยอดจากนวัตกรรม โปรแกรม J Plasma ที่เคยโดดเด่นในการยกกระชับผิวบริเวณกว้าง

เช่น หน้าท้อง ต้นแขน หรือต้นขา แต่ โปรแกรม Renuvion ก้าวไปอีกขั้นด้วยความสามารถในการเก็บรายละเอียดในจุดเล็ก ๆ ทั่วร่างกาย 

เหมาะสำหรับการยกกระชับผิวหลังดูดไขมัน ช่วยปรับผิวให้เรียบเนียน เก็บรายละเอียดในบริเวณที่ซับซ้อน

เช่น ใต้คาง รักแร้ หรือรอบเอว ทำให้ผลลัพธ์แลดูเป็นธรรมชาติและประณีตมากยิ่งขึ้น 

เหมาะกับใครบ้าง? 

  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยจากอายุที่เพิ่มขึ้น 
  • ผู้ที่ต้องการปรับผิวให้เรียบเนียนกระชับ โดยไม่ต้องผ่าตัด 
  • ผู้ที่มีรอยแตกลายหลังคลอด หรือหลังลดน้ำหนัก 
  • ผู้ที่ดูดไขมันและต้องการยกกระชับเพิ่ม 

 

การผ่าตัดตัดหนังส่วนเกิน (Skin Excision) 

  • เหมาะสำหรับกรณีที่ผิวหย่อนมาก 
  • มักใช้ร่วมกับการดูดไขมัน 
  • ให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจน 

 

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจแก้ไขการดูดไขมันอีกครั้ง 

ระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการแก้ไข 

  • ควรรอให้ผ่านไปอย่างน้อย 6-12 เดือนหลังการดูดไขมันครั้งแรก 
  • ให้ร่างกายฟื้นตัวสมบูรณ์ก่อน 
  • ประเมินปัญหาได้แม่นยำมากขึ้น 

การเลือกแพทย์ที่เหมาะสม 

  • หาแพทย์ที่มีความชำนาญการเฉพาะในการแก้ไข 
  • ดูผลงานและประสบการณ์ 
  • ปรึกษาหลายๆ คน เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็น 

ค่าใช้จ่ายและการวางแผนทางการเงิน 

  • การแก้ไขมักมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการดูดไขมันครั้งแรก 
  • ควรเตรียมงบประมาณสำหรับการดูแลหลังผ่าตัดด้วย 
  • พิจารณาแผนการผ่อนชำระถ้าจำเป็น 

 

ข้อห้ามหลังดูดไขมัน สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง 

หลังดูดไขมันสัปดาห์แรกหลังผ่าตัด (0-7 วัน) 

  • ห้ามอาบน้ำหรือน้ำโดนแผลผ่าตัด ให้ชุปน้ำเช็ดตัวแทน 
  • ห้ามออกกำลังกายหนัก หรือกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก 
  • ห้ามยกของหนัก เกิน 5 กิโลกรัม 
  • ห้ามดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ร่างกายฟื้นฟูช้า 
  • ห้ามสูบบุหรี่ จะทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดี 

หลังดูดไขมันสัปดาห์ที่ 2-4 

  • ห้ามแช่น้ำ เช่น อ่างอาบน้ำ สระว่ายน้ำ หรือทะเล 
  • ห้ามนวดแรง ๆ ในบริเวณที่ผ่าตัด 
  • ห้ามเดินทางไกล หรือขับรถนาน ๆ  
  • ห้ามนอนหน้าคว่ำ ถ้าทำที่หน้าท้องหรือหลัง 

หลังดูดไขมันระยะยาว (1-3 เดือน) 

  • ห้ามซาวน่าหรือห้องอบไอน้ำ เพราะความร้อนจะทำให้เกิดการบวม 
  • ห้ามเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมาก จะทำให้เกิดการบวมได้ 
  • ห้ามใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป ในบริเวณที่ผ่าตัด 

 

การดูแลหลังดูดไขมัน เพื่อการฟื้นตัวที่ดี 

การดูแลทันทีหลังหลังดูดไขมัน (24-48 ชั่วโมงแรก) 

  • นอนหงายหรือตะแคง ในท่าที่สบาย หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือท่าที่กดทับบริเวณผ่าตัด 
  • มีคนดูแลใกล้ชิด อย่างน้อย 24 ชั่วโมงแรก 
  • ตรวจสอบแผลผ่าตัด เป็นระยะ และเช็ดทำความสะอาดตามคำแนะนำของแพทย์ 
  • ใส่ชุดกระชับ ทันทีหลังการดูดไขมัน ชุดกระชับช่วยลดบวม ลดการสะสมของของเหลวใต้ผิวหนัง และปรับรูปร่างให้กระชับขึ้น 
  • สังเกตุอาการผิดปกติ เช่น เลือดออกมากหรือไม่หยุด น้ำเหลืองไหลเยอะผิดปกติ บวมแดงรุนแรง เจ็บเพิ่มขึ้น และ มีไข้หรือหนาวสั่น 

การดูแลหลังดูดไขมันสัปดาห์แรก 

  • ใส่ชุดกระชับตลอดเวลา (24 ชั่วโมงต่อวัน) ในช่วง 2-4 สัปดาห์แรก 
  • ทานยาแก้ปวดและยาปฏิชีวนะตามคำแนะนำของแพทย์ 
  • หลีกเลี่ยงยาที่มีส่วนผสมของแอสไพริน เพื่อป้องกันการเลือดออกผิดปกติ 
  • เลือกอาหารที่ย่อยง่าย โปรตีนสูง ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน 
  • หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม หวาน และมันจัด 

การดูแลหลังดูดไขมันสัปดาห์ที่ 2-4 

  • ใส่ชุดกระชับอย่างน้อย 22-23 ชั่วโมงต่อวัน ถอดเฉพาะเวลาอาบน้ำ 
  • เริ่มเดินเบา ๆ เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น 
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก และค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้นตามคำแนะนำของแพทย์ 
  • ทาครีมบำรุงผิวหรือผลิตภัณฑ์ลดรอยแผลเป็นตามคำแนะนำ 
  • หลีกเลี่ยงการขัดหรือขูดผิวแรง ๆ และป้องกันแสงแดดบริเวณที่ผ่าตัด 

การดูแลหลังดูดไขมัน ระยะ 1-3 เดือน 

  • ใส่ชุดกระชับอย่างต่อเนื่อง โดยลดการใส่ลงเหลือ 12-16 ชั่วโมงต่อวัน ในช่วงเดือนที่ 2-3 
  • เริ่มนวดระบายน้ำเหลืองตามคำแนะนำของแพทย์ ช่วยลดบวมและปรับรูปร่าง 
  • เพิ่มความเข้มข้นของการออกกำลังกายอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเน้นการออกกำลังกายแบบ Cardio เบา ๆ 
  • หลีกเลี่ยงการยกน้ำหนักหนักในช่วงแรก เพื่อป้องกันการบาดเจ็บหรือการสะสมของของเหลว 

 

การใส่ชุดกระชับสม่ำเสมอ เป็นปัจจัยสำคัญในการได้ผลลัพธ์ที่ดีจากการดูดไขมัน ช่วยให้ผิวแนบกระชับ ลดบวม

และปรับรูปร่างให้ดูสมส่วน ใส่อย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนะคะ! 

 

ข้อมูลสำคัญที่คนดูดไขมันควรรู้ ผลลัพธ์ที่เป็นจริง vs ความคาดหวัง 

สิ่งที่การดูดไขมันทำได้ 

  • ลดปริมาณไขมันในบริเวณที่กำหนด 
  • ปรับสัดส่วนให้ดูสมดุลขึ้น 
  • เพิ่มความมั่นใจในรูปร่าง 

สิ่งที่การดูดไขมันทำไม่ได้ 

  • ลดน้ำหนักตัวได้มากมาย (ลดได้เฉพาะ 2-5 กิโลกรัม) 
  • กำจัดเซลลูไลท์ทั้งหมด 
  • ทำให้ผิวกระชับเหมือนเด็ก 

 

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น หลังแก้ดูดไขมัน 

แทรกซ้อนระยะสั้น 

  • การบวมและช้ำเขียว (ปกติ 1-2 สัปดาห์) 
  • การติดเชื้อ (ป้องกันได้ด้วยยาปฏิชีวนะ) 
  • การเสียสีผิว (หายได้ในระยะยาว) 

แทรกซ้อนระยะยาว 

  • รอยหลุมบ๊อกของผิว 
  • ความไม่สมมาตร 
  • การสูญเสียความรู้สึกชั่วคราว 

 

การป้องกันปัญหาหลังดูดไขมัน เพื่อไม่ให้เกิดแก้การดูดไขมันอีกครั้ง 

 การรักษาน้ำหนัก สร้างนิสัยการกินที่ดี 

  • รับประทานอาหารครบ 5 หมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม 
  • ลดอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันชั่ว 
  • เพิ่มการรับประทานผัก ผลไม้ และโปรตีนคุณภาพดี 

การออกกำลังกายสม่ำเสมอ 

  • เริ่มด้วยการเดินอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 
  • เพิ่มการออกกำลังกายแบบ Cardio 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ 
  • เพิ่มการฝึกกล้ามเนื้อเพื่อเพิ่มการเผาผลาญ 

การบำรุงผิวประจำวัน 

  • ใช้ครีมบำรุงที่มี Collagen และ Vitamin E 
  • ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน 
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ 

การนวดและบริหารผิว 

  • นวดเบา ๆ ด้วยครีมบำรุงผิว 
  • ใช้แปรงนุ่ม ๆ ขัดผิวเบา ๆ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ 
  • พิจารณาการทำ RF หรือ Laser เพื่อกระชับผิว 

 

 ดูดไขมันมาแล้วทำไมต้องแก้ คำถามที่พบบ่อย (FAQ) 

Q: ต้องรออีกนานแค่ไหนก่อนจะแก้ไขได้?  

A: ควรรออย่างน้อย 6-12 เดือนหลังการดูดไขมันครั้งแรก เพื่อให้การฟื้นตัวสมบูรณ์และประเมินปัญหาได้แม่นยำ 

Q: การแก้ไขจะเจ็บมากกว่าครั้งแรกไหม?  

A: ขึ้นอยู่กับวิธีการแก้ไข โดยทั่วไปอาจมีความเจ็บปวดใกล้เคียงกับครั้งแรก แต่บางวิธีเช่นการฉีดไขมันจะเจ็บน้อยกว่า 

Q: ประกันสุขภาพจ่ายค่าแก้ไขให้ไหม? 

A: โดยทั่วไปประกันจะไม่คุ้มครองการผ่าตัดเพื่อความงาม ยกเว้นกรณีที่เกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงจากการผ่าตัดครั้งแรก 

Q: สามารถแก้ไขได้กี่ครั้ง?  

A: ขึ้นอยู่กับสภาพของเนื้อเยื่อและลักษณะปัญหา โดยทั่วไปไม่ควรเกิน 2-3 ครั้ง เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน 

 

สรุป: เส้นทางสู่รูปร่างในฝัน เพื่อที่จะดูดไขมันมาแล้วไม่ต้องแก้! 

การดูดไขมันที่ไม่เป็นไปตามคาดหวังไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นโอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อย่างมั่นใจ การแก้ไขที่ถูกต้องและเหมาะสมสามารถนำไปสู่รูปร่างที่ต้องการได้ เพียงเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้ง เลือกแพทย์ผู้ชำนาญการที่ไว้ใจได้ และเตรียมตัวทั้งกายและใจให้พร้อม 

ความงามที่แท้จริงต้องมาคู่กับสุขภาพที่ดี ดังนั้น การตัดสินใจแก้ไขจึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ศึกษาข้อมูลให้เพียงพอ ปรึกษาผู้ชำนาญการหลากหลายมุมมอง และวางแผนการเงินอย่างเหมาะสม จะได้ไม่เกิดคำถามว่า ดูดไขมันมาแล้วทำไมต้องแก้” 

ไม่จำเป็นต้องรีบตัดสินใจ ให้เวลากับการค้นคว้าและประเมินตัวเลือก เพื่อให้การตัดสินใจครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่นำไปสู่รูปร่างในฝันอย่างแท้จริง พร้อมมั่นใจทั้งความสวยงามและสุขภาพที่ดีในระยะยาว   

Tagged : #.